ญาติสาวประเภทสอง เผย หมอเถื่อนอ้างจะชดใช้เงินให้ 3.2 ล้านบาท แต่กลับติดต่อไม่ได้

ประเด็นคือ – พ่อเเม่ของน้องกี้ สาวประเภทสองที่เสียชีวิตจากการผ่าตัดเสริมทรวงอก เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ญาติ เผย ธนัชพงศ์ได้ไปที่งานศพ อ้างจะชดใช้เป็นเงินจำนวนกว่า 3.2 ล้าน เเต่ต่อมาไม่สามารถติดได้

วันที่ 6 พ.ย. 60 ที่ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง พระใบฏีกาณัฏต์ฐนันท์ คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดหนองเรือ ต.หนองนาม อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมนายประทิน จักขุเรือง กำนันตำบลหนองนาม อ.เมือง จ.ลำพูน ได้พาพ่อและแม่ของ นายจิรัชยา คำพูน อายุ 22 ปี หรือ น้องกี้ สาวประเภทสองชาว จ.ลำพูน ซึ่งเสียชีวิตหลังจากได้เข้าทำการผ่าตัดเสริมทรวงอกที่ “ดีไวน์คลินิกเวชกรรม” ซึ่งเป็นคลินิกเถื่อน โดยวันนี้ได้มาเข้าพบ พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยพระใบฏีกาณัฏต์ฐนันท์ คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดหนองเรือ และ นายประทิน จักขุเรือง กำนันตำบลหนองนาม ซึ่งเป็นญาติของน้องกี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลังเกิดเหตุพบว่า นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือ เบญ คนที่อ้างตัวเป็นหมอดิว ได้ไปที่งานศพที่ จ.ลำพูน ซึ่งก็ได้เจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางญาติ โดยบอกว่าจะจ่ายเงินให้จำนวน 300,000 บาทในเบื้องต้น

แต่ทางญาติก็บอกว่าไม่พอกับค่าใช้จ่ายในงานจัดงานศพ นายธนัชพงศ์ก็ได้รับปากเพิ่มให้เป็น 500,000 บาท จากนั้นจะจ่ายเงินให้อีก 1.5 ล้านบาทโดยจะทำการผ่อนจ่ายภายใน 1 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ยังจะให้เงินพิเศษอีกเดือนละ 5,000 บาทเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งเงินส่วนนี้อ้างว่าเป็นเงินเบี้ยประกันชีวิตของนายธนัชพงศ์ ที่จะได้ตอนแทนในแต่ละเดือน

โดยเงินก้อนแรกรับปากว่าจะนำมาจ่ายก่อน 300,000 บาท ในวันฌาปนกิจศพที่สุสานในวันที่ 2 พ.ย. และวันที่ 15 พ.ย. จะจ่ายให้อีก 200,000 บาท แต่เมื่อทางญาติโทรติดต่อทางโทรศัพท์กลับอ้างว่าตำรวจเรียกพบเสร็จแล้วจะเข้าไปหา จนตกเย็นก็ยังไม่มา และก็ติดต่อกับนายธนัชพงศ์ไม่ได้อีกเลย

ด้านบิดาของน้องกี้ก็ได้กล่าวว่า น้องกี้เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว เป็นเด็กดีไม่ดื้อเชื่อฟังพ่อแม่อีกทั้งเป็นคนตั้งใจเรียนหนังสือซึ่งได้เรียนจบปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากมหาวิทยาลัยพะเยา ก่อนจะเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งก็เพิ่งเรียนได้เพียง 3 เดือน แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน สร้างความโศกเศร้าเสียใจกับครอบครัวเป็นอย่างมาก

โดยก่อนหน้านี้ทางญาติก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องกับทางคลินิกเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางคลินิกก็ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลทั้งค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ตลอดจนติดต่อรับนำศพไปส่งที่บ้าน จ.ลำพูน อีกทั้งพนักงานคลินิกยังไปช่วยงานศพและเป็นเจ้าภาพงานศพ เเละยังรับปากจะจ่ายเงินช่วยเหลือรวมทั้งหมดกว่า 3.2 ล้านบาท จึงเชื่อใจว่าทางคลินิกจะช่วยเหลือ แต่ต่อมากลับติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งพบว่านายธนัชพงศ์เป็นหมอปลอมและมีหมายจับอีก 5 หมาย และทางญาติก็ไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวโทษไปก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้แม่ของน้องกี้ยังได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้นอนหลับฝันเห็นโลงศพมาอยู่ข้างหน้าจึงพยายามจะงัดฝาโลงศพออกเพื่อเปิดดู ใช้แชลงงัดดูก็ไม่สามารถเปิดได้จนมาทราบว่าน้องกี้จะเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามทราบว่าขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท

นอกจากนี้พนักงานคลินิกคนหนึ่งยังได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้หลังเกิดเรื่องนายธนัชพงศ์ที่อ้างตัวเป็นหมอดิว ก็ได้สั่งให้รวมรายชื่อลูกค้าที่โอนเงินมัดจำทั้งหมดเพื่อจะเตรียมจ่ายเงินคืน พบมีจำนวนกว่า 200 ราย ซึ่งพนักงานคลินิกก็ยอมรับว่าไม่มีใครรู้เลยว่านายธนัชพงศ์เป็นหมอปลอม ซึ่งตอนนี้เงินเดือนก็ยังไม่ได้รับอีกด้วย