SHARE

คัดลอกแล้ว

พี่สาวหนุ่มโดนยิงดับปริศนา ร้องลั่นค้านไม่ให้เผาศพ ขณะนำร่างขึ้นเมรุ ญาติเชื่อถูกวิญญาณผู้ตายเข้าสิง พ่อตัดสินใจเก็บศพไว้ไม่มีกำหนด เผยคาใจหลายประเด็น วอนผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรม

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. วันที่ 20 มกราคม 2562 ร.ต.อ.ชาตรี ชูวิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือถนนเลียบคลองบางใหญ่ ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ก่อนถึงศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 100 เมตร

หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต จากการเข้าตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนายธีรศักดิ์ แซ่อ๋อง อายุ 30 ปี ชาว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นบุตรชายของนายเจริญ แซ่อ๋อง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรัษฏา เขต 1 อ.เมืองภูเก็ต

ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกกระสุนไม่ทราบขนาดเจาะที่ขมับด้านซ้าย 1 นัด และยังพบกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 7 นัด ในเข็มขัดซึ่งรัดอยู่ที่เอวของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า มูลเหตุมาจากความขัดแย้งส่วนตัว

ต่อมา ในวันที่ 21 ม.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้ออกใบแถลงข่าว ในรายละเอียดแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ ผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายธีรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต คือ นายจักรกฤษ หรือ ดิว แสงสะอาด ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้มามอบตัวสู้คดี ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งในชั้นสอบสวนนายจักรกฤษ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และประกันตัวไป โดยมีหลักทรัพย์ประกันตัว ซึ่งขณะนี้ สภ.วิชิต ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดของผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 23 ม.ค. 62 ที่ศาลาเอนกประสงค์ของวัดกะทู้ หมู่ที่ 4 ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายธีรศักดิ์ หรือโม ได้มีการสวดพระอภิบังสุกุลศพ และประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง ก่อนทำการเคลื่อนศพไปยังเมรุ เพื่อทำการฌาปนกิจ ซึ่งได้มีญาติๆ เพื่อนสนิทของนายธีรศักดิ์ และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเจริญ ผู้เป็นพ่อ มาร่วมในพิธีจำนวนมาก

ทันทีที่เสร็จสิ้นพิธีทางสงฆ์ และได้เวลาเคลื่อนศพออกจากศาลาไปยังเมรุซึ่งอยู่ด้านหลังวัด ผู้ร่วมฌาปนกิจก็ได้มีการตั้งขบวนและเดินแห่โลงศพไปยังเมรุอย่างโศกเศร้า ขณะเดียวกันเพื่อนๆ ของนายธีรศักดิ์หรือโม ก็มีการนำรถจักรยานยนต์ 3 คัน ซึ่งเป็นของรักของหวงมาเร่งเครื่องจนเสียงดังสนั่นเพื่อเป็นการส่งอาลัยแก่เพื่อนรัก

แต่ทันทีที่นำศพเข้าสู่เมรุและเตรียมการเผาอยู่นั้น ปรากฏว่า นางสาวแตง ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนายโม ได้เกิดอาการตัวสั่น และหวีดร้องเสียงดัง ญาติๆ ต้องช่วยกันจับตัวไว้ โดยเมื่อจับใจความสำคัญพบว่า เสียงตะโกนดังกล่าวระบุว่า “ตนเองคือวิญญาณนายธีรศักดิ์ หรือโม และไม่ต้องการให้เผาเด็ดขาด แม้ว่านายเจริญ ผู้เป็นพ่อจะพยายามเข้าไปขอร้องแต่ก็ไม่เป็นผล จึงสอบถามความเห็นญาติๆ ก่อนตัดสินใจยกเลิกการเผาศพตามคำขอ และจะเก็บศพไว้ที่วัดก่อนอย่างไม่มีกำหนด จึงทำให้ร่างของพี่สาวเริ่มมีอาการสงบลง จากนั้นญาติๆ ก็ได้พาตัวพี่สาวของผู้เสียชีวิตไปพบกับพระสงฆ์เพื่อรดน้ำมนต์

ทางด้านนายเจริญ เปิดเผยว่า มีความเชื่อว่า นายธีรศักดิ์ บุตรชาย ไม่ต้องการให้เผาศพ เนื่องจากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจะต้องเก็บศพไว้ต่อไม่มีกำหนด ในส่วนของคดีนั้นตนเองยังรู้สึกคาใจว่า ทำไมเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกไป และไม่ชี้แจงความคืบหน้าคดีต่อตนก่อนหน้านี้ เนื่องจากตนไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร จึงมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของครอบครัว

“ความจริงก่อนหน้านี้มีความคิดที่จะแห่โลงศพไปยังศาลากลางจังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วก็รู้สึกไม่ดี คิดว่าเพื่อความสงบสุขของภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ จึงขอพึ่งพากระบวนการยุติธรรมแทน”

นายเจริญ กล่าวด้วยว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า บุตรชายของตนมีอาวุธปืนและเปิดฉากยิงก่อนนั้น จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ไม่พบอาวุธปืนของลูกชาย ซึ่งไม่ทราบว่าหายไปไหน? เพราะผู้เสียชีวิตคงไม่สามารถโยนปืนทิ้งเองได้ ขณะเดียวกันก็มีแค่พยานอีกฝ่าย ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงคำให้การและหลักฐานได้

หลังจากนี้ตนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกชายตน ซึ่งทำงานการเมืองท้องถิ่นหรือคนของสังคม แต่ยังไม่มีความยุติธรรม และถ้าเกิดขึ้นกับชาวบ้านตาสีตาสา ก็ยิ่งเชื่อว่าไม่มีความยุติธรรมแน่นอน จึงต้องดำเนินการอย่างเต็มที่

เพราะตนมีลูกชายคนเดียว เลวบ้างดีบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ก่อการร้าย จึงอยากฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ขอให้ความเป็นธรรมกับตนและลูกด้วย โดยตนหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่ากฎหมายไทยจะมีความยุติธรรม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า