ฎีกาพิพากษากลับหนุ่มตรังพ้นผิดคดีฆ่า ด.ญ.ยัดท่อระบายน้ำ

หนุ่มตรังติดคุก 4 ปีระหว่างสู้คดีฆ่าเด็กหญิงวัย 11 ปียัดท่อระบายน้ำ ที่สุดศาลฎีกาพิพากษากลับให้พ้นผิด รับระหว่างอยู่ในเรือนจำแทบบ้าเคยคิดจะทำร้ายตัวเอง ครอบครัวกระทบหนักลูกไม่ได้เรียน สังคมรังเกียจ ขอสังคมคืนความยุติธรรมให้ด้วย

วันที่ 20 มี.ค. ศาลจังหวัดตรัง อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ 7137/2561 ในคดีที่นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล อายุ 38 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า ด.ญ.เกตุมาตุ หรือน้องเพลง รำนา อายุ 11 ปี ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อการปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค.2557 มีผู้พบศพผู้ตายถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำบริเวณ ถ.สายวัดพระงาม-บ้านควน พื้นที่ ม.7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง

ภาพเหตุการณ์ปี 2557

ศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต ต่อมาจำเลยได้ต่อสู้คดีต่อศาลอุทธรณ์ จนมีคำพิพากษาลดโทษจำคุกตลอดชีวิต จนมาถึงชั้นฎีกาในวันนี้ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง นายประถมพงษ์ ในที่สุด

นายประถมพงษ์ กล่าวว่า เป็นการคืนความยุติธรรมให้ตน ศาลเห็นถึงข้อนี้แล้วว่าตนไม่ใช่ผู้กระทำเขาจึงยกฟ้องให้ แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์และยุติธรรมสำหรับตนแล้ว ช่วงที่ถูกจำคุก 4 ปีนั้นรู้สึกเหมือนจะบ้า เคยคิดที่จะทำร้ายตัวเองแต่ไม่เคยคิดที่จะหนีคดี ช่วงที่อยู่ในคดีนั้นทางครอบครัวลำบากมากเป็นหนี้สินเยอะเพราะต้องหาเงินเพื่อต่อสู้คดี ลูกก็ไม่ได้เรียนไป 2 คน เพราะส่งเสียให้ไม่ทัน และอีก 2 คนนั้นพี่รับเลี้ยงไว้ ในช่วงที่ไปเยี่ยมนั้นก็ต้องนำเงินมาฝากตน

ตนถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั่ว คนเลว ของสังคม ในครอบครัวโดนหมด พ่อแม่ พี่น้อง และลูก ซึ่งลูกก็ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อนล้อ ถูกแกล้ง เมื่อศาลคืนความยุติธรรมให้ตนแล้ว อยากให้สังคมคืนความยุติธรรมให้ตนด้วย อยากฝากบอกว่าก่อนที่จะฟังข่าวสารอะไรให้ใช้จิตสำนึกคิดก่อน ข่าวที่ปรากฏออกไปหรือที่เสนอไปไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นไม่ดี บางครั้งก็ไม่ใช่ทุกคน

ด้าน นายสายัน หมื่นบาล พี่ชาย กล่าวว่า ทางครอบครัวรู้สึกดีใจมาก เพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าน้องของตนไม่ได้ทำตั้งแต่ต้นและรอโอกาสนี้มานานแล้ว ขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตากับครอบครัวของตน เมื่อก่อนไปไหนก็ไม่ได้มีแต่คนประณามหยามเหยียด ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัวเรา อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย เพราะทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสียหาย โดยเฉพาะตำรวจที่เป็นเจ้าของเรื่อง อยากฝากถึงสังคมปัจจุบัน ให้ไตร่ตรองข่าวสารให้ดีๆ ก่อน โดยเฉพาะการเสพข่าวจากโซเชียล เพราะพอรู้ข่าวแล้วก็มักจะตีความตามข่าว จึงต้องมีการไตร่ตรองและเช็กข่าวให้ละเอียดเสียก่อน

นายวิฑูรย์ องอาจ ทนายความกล่าวว่า เริ่มแรกเราเข้ามาแสวงหาพยานหลักฐาน ทางฝั่งเราเจอข้อพิรุธหลายประการว่าคนร้ายเป็นรายอื่นที่ไม่ใช่จำเลยอย่างแน่นอน หลักจากนั้นเราก็ได้ให้การช่วยเหลือและต่อสู้คดีกันมาโดยตลอด ในเรื่องนี้สังคมค่อนข้างชี้นำว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด แม้กระทั่งการออกข่าวว่าพบ DNA ของจำเลย หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับจำเลยจนทุกคนคิดว่าจำเลยเป็นคนร้าย

แล้วก็สิ่งสำคัญคือ คดีนี้เป็นคดีอาชญากรรมที่กระทำความผิดต่อสังคมวงกว้าง เขาจะมองลักษณะของอาชญากรดังกล่าวให้เกิดความเสื่อมเสียกับสถาบันครอบครัวและทางญาติพี่น้อง ตามที่จำเลยได้กล่าวไว้ว่า ตอนลูกไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนดูถูกดูแคลนมาโดยตลอด ตนก็เลยอยากจะเรียนต่อสังคมว่า บางอย่างเราอย่าเพิ่งกำหนดว่าจำเลยเป็นคนร้ายให้รอคำพิพากษาของศาลให้ถึงที่สุดก่อนว่าผลของคำพิพากษาออกมาอย่างไร เพราะมันก่อให้เกิดความเสียหายมากกับผู้ที่ถูกประณาม หลังจากนี้ก็จะต้องดูข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อตรียมที่จะฟ้องกลับกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายในครั้งนี้