ประเด็นคือ- จากสภาวะดินทรุดตัว ที่ดอยแม่สลอง ตั้งแต่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าของอาคารยังไม่ยอมรื้อถอนอาคาร ด้าน อบต.แม่สลองนอก ประกาศพื้นที่เป็นเขตอันตราย ห้ามอยู่อาศัย ซึ่งเช้าวันนี้ (13 ก.ย. 60) หน่วยงานหลายภาคส่วนได้ลงพื้นที่หารือกับเจ้าของอาคารและชาวบ้าน ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ย. 60) นายเอกกฤต จิตตางกูร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ฝ่ายปกครองอำเภอแม่ฟ้าหลวง เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต.แม่สลองนอก ร่วมกันหารือกับชาวบ้านที่เป็นเจ้าของอาคาร ที่ได้รับผลกระทบจากดินไหลและเกิดทรุดตัว มาตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา จนตัวบ้านที่เคยสร้างอยู่สูงกว่าผิวถนน ทรุดลงต่ำกว่าผิวถนนเกือบ 2 เมตร
และทาง อบต.แม่สลองนอก ได้ประกาศเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามอยู่อาศัยอย่างเด็ดขาด พร้อมให้ทำการรื้ออาคารออกจากพื้นที่ แต่หลังจากเวลาผ่านมาครบ 1 เดือน ปรากฏว่าเจ้าของอาคารยังไม่ยอมรื้อถอน ในขณะที่ดินก็ยังคงไหลและทรุดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นทางยาวเกือบ 100 เมตรแล้ว
ซึ่งหลังจากการพูดคุย ได้ลงตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคาร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าระดับในการเลื่อนไหลของดินเร็วมาก หากยังไม่มีการรื้อถอนอาคารก็จะยิ่งเสียหายเพิ่มมากขึ้น ทางฝ่ายโยธาและองค์การบริหารส่วนตำบลบอกว่า หากจะรื้อถอนในขณะนี้ก็ยังสามารถเข้าไปในตัวอาคารเพื่อรื้อถอนได้ แต่จากการหารือ ได้ตกลงกับเจ้าของอาคารว่าต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเจ้าของอาคารด้วย
โดยทาง อบต.แม่สลองนอก ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็มีความกังวลว่า การไหลและทรุดตัวของดินบริเวณนี้จะขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น จนลามไปยังผิวถนนและจุดต่างๆ มากยิ่งขึ้น หากไม่มีการแก้ไข
ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะยาวต้องคุยกันหลายฝ่าย รวมทั้งต้องมีการวิเคราะห์ดิน ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะสั้นก็คงห้ามเข้าพื้นที่ และจะแจ้งแขวงการทางมาทำแนวป้องกันผิวถนนทรุดตัวไปก่อน