ตร.ตั้งชุดสอบ ‘หวยอลเวง’ ถูกรางวัลที่ 2 ถูกแจ้งความยักยอกทรัพย์ เชื่อไม่นานปิดคดี

ผกก.โรงพักเมืองพิษณุโลก ตั้งทีมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีหวยอลเวง พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หลังผู้ชื้อถูกรางวัลที่ 2 เงินรางวัลกว่า 600,000 บาท แต่แม่ค้าอ้างไม่ได้ขาย แต่หยิบลอตเตอรีเกินไปให้ และแจ้งความผู้ซื้อในข้อหายักยอกทรัพย์ 

จากกรณี ร.ต.เทอดศักดิ์ ทองโชติ อายุ 63 ปี อดีตทหารอากาศ พร้อมด้วย นางเจริญรัตน์ ทองโชติ อายุ 56 ปี คุณครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ถูกลอตเตอรีรางวัลที่ 2 หมายเลข 923496 จำนวน 3 ใบ ของงวดประจำวันที่ 1 ส.ค. 61 เป็นเงินรางวัลถึง 600,000 บาท โดยซื้อเมื่อวันที่ 24 ก.ค. จำนวน 13 ใบ มีหวยชุด 3 ใบ และแบบแบ่งขาย 1 ใบ

แต่ทางร้านที่ซื้อมากลับไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ ไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าได้หยิบลอตเตอรีเกินไปให้ จนทำให้เครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับและไม่สบายใจ ต้องเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน งง ถูกหวยรางวัลที่ 2 ร้านขอคืนอ้างหยิบให้เกิน)

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งทีมชุดสืบสวนขึ้นโดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.วรุต คณานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นหัวหน้าชุด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมที่ร้านขายลอตเตอรีดังกล่าวแล้ว ตั้งอยู่บริเวณถนนเส้นสนามบิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมทั้งนำเซิฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดภายในร้านมาตรวจสอบ รวมถึงพยานบุคคลแวดล้อม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในคดี

ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกรางวัลแต่อย่างใด และยืนยันว่าคดีนี้ ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย แต่ในส่วนของรายละเอียดรูปคดียังไม่สามารถเปิดเผยกับสื่อมวลชนได้

ในเบื้องต้นเจ้าของร้านขายลอตเตอรีมาแจ้งความให้เอาผิดกับ ร.ต.เทอดศักดิ์ ทองโชติ (ผู้ซื้อลอตเตอรี) เพียงผู้เดียว ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยบอกว่าเป็นลอตเตอรีที่ทางร้านไม่ได้ขายให้ เพราะจัดเป็นชุด 5 ใบ แต่ได้ให้เกินไป ขณะที่ผู้ถูกรางวัลก็มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว และยืนยันว่าซื้อลอตเตอรีจากร้านดังกล่าวอย่างถูกต้อง ทางตำรวจพบว่ายังมีข้อขัดแย้งและพบพิรุธอีกหลายจุดที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ หากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน ก็สามารถให้มาถอนการร้องทุกข์แจ้งความกับพนักงานสอบสวน ส่วนในกรณีที่มีการจำหน่ายลอตเตอรีเกินราคานั้น ถ้าสอบสวนแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าเป็นความผิดที่ต้องดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจได้เข้มงวดกวดขัน ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าวตามร้านจำหน่ายลอตเตอรีในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก จนสามารถจับกุมผู้ค้าลอตเตอรีเกินราคาได้ถึงเดือนละประมาณ 30 ราย

ขณะที่ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ปันกาวี รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า คดีนี้ถือว่ายังไม่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อน เพราะมีแค่ผู้ขายลอตเตอรีกับผู้ซื้อเท่านั้น จะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หรือทางฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมก็สามารถนำมาให้กับตำรวจได้ทันที ทั้งนี้ ก็จะต้องตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์และโทรศัพท์มือถือด้วยทั้งหมด พร้อมทั้งจะต้องทำคดีอย่างรัดกุมที่สุด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่ร้านจำหน่ายลอตเตอรีดังกล่าว พบว่าร้านแห่งนี้ยังคงปิดอยู่ และจะเปิดจำหน่ายลอตเตอรีอย่างคึกคักในช่วงเวลาวันใกล้หวยออก ซึ่งมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อแปะป้ายไวนิลไว้ที่หน้าร้านอีกด้วย จึงได้โทรศัพท์สอบถามพบกับคู่สนทนาที่เป็นหญิง ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นแม่ของเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชาย พอทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ส่วนจากการสอบถามร้านค้าข้างเคียงทราบว่า ร้านแห่งนี้โดยปกติจะมีลูกค้าเข้ามาซื้อกันเยอะ โดยเฉพาะวันใกล้หวยออก ซึ่งก็จะมีการแบ่งขายหวยชุดเหมือนตามแผงทั่วๆ ไป