SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – พบพระพุทธรูปทองคำเเท้ องค์ใหญ่ น้ำหนักประมาณ 1 ตัน ที่วัดจุฬามณี จ.อ่างทอง เจ้าอาวาส พระลูกวัด กรรมกร หวั่นถูกโจรกรรม เเจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้าตรวจสอบ เเละช่วยดูเเล  

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังวัดจุฬามณี ในพื้นที่ ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังทราบว่าที่วัดดังกล่าวนั้นมีพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่เก็บรักษาไว้ที่วัด โดยเดินทางไปถึงพบว่าที่วัดดังกล่าวมีพื้นที่บริเวณกว้าง บนศาลาการเปรียญซึ่งเป็นศาลายกสูง ด้านหน้ามีการปิดล็อกประตูอย่างดีถึง 2 ชั้น บริเวณด้านบนได้มีพระพุทธรูป “พระพุทธมงคลชัย” เป็นพระปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 93 เซนติเมตร ซึ่งองค์เป็นสีเหลืองทอง ตั้งประดิษฐานไว้ในตู้กระจกบนศาลา โดยมีประตูเหล็กล้อมรอบอีก 2 ชั้น

จากการสอบถามคุณลุงพิชิต มีลักษณะ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 3 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กรรมการวัดและเป็นคนเก่าแก่ของวัด กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพระพุทธมงคลชัยองค์นี้เป็นพระทองคำจริง โดยพระพุทธมงคลชัยนี้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย มีหน้าตักกว้าง 93 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน

แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปที่ลงรักไว้เป็นสีดำ และประดิษฐานไว้ที่หอสวดมนต์เก่า ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่ค่อยได้มีใครสนใจ มีขี้นกอยู่เต็มไปหมด จนกระทั่งกรรมการวัดคนหนึ่งได้เห็นพระพุทธรูปนั้นดูเลอะเทอะจึงไปปรึกษากับเจ้าอาวาสวัด ซึ่งตอนนั้นตรงกับเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 5 ว่าจะขอทำความสะอาดพระ ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ได้อนุญาต

ปรากฏว่าระหว่างที่ทำความสะอาดองค์พระพุทธรูปอยู่นั้น รักที่ลงไว้ได้เกิดหลุดร่อนไปส่วนหนึ่ง จึงทำให้ได้เห็นเนื้อในองค์พระเป็นสีทอง แต่ไม่เหลืองอร่าม เป็นสีทองที่ชาวบ้านเรียกกันว่า สีทองดอกบวบ ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นทองจริงๆ เข้าใจว่าเป็นทองเหลือง จากนั้นได้มีตรวจสอบองค์พระพบว่าพระมีตำหนิเป็นรอยตามด จึงได้ให้ช่างบูรณะ โดยการนำเอาทอง 99% ไปหล่อและเทแทรกเข้าไปตามรอยตามด ปรากฎว่าทองนั้นกลับเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน จึงการนำองค์พระพุทธรูปไปให้ร้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ตรวจดู ซึ่งทางร้านยืนยันว่าเป็นพระทองคำจริง โดยมีเนื้อทองคำอยู่ที่ประมาณ 80-90%

ลุงพิชิต กล่าวต่อว่า ซึ่งหลังจากทราบดังนั้น จึงได้มีการขอความร่วมมือกับร้านดังกล่าว ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร เนื่องจากเกรงกลัวว่าจะมีคนรู้และมาขโมยไป ซึ่งหลังจากนำกลับมาทางวัดก็ได้นำขึ้นไปประดิษฐานไว้บนศาลาการเปรียญ และทำตู้เก็บและล้อมรั้วตู้ไว้ ช่วยกันดูแลรักษามาอย่างดี

ซึ่งเรื่องพระพุทธรูปทองคำองค์นี้นั้น ปกติทางวัดและชาวบ้านบางส่วนจะไม่ค่อยพูดให้ใครรู้ เนื่องจากเกรงกลัวอันตราย จึงมีหลายคนที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน พอมีข่าวออกไป ตอนแรกตนก็หวาดหวั่น แต่มาคิดอีกที ก็เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันดูแลความปลอดภัย และคอยทำนุบำรุงรักษา ผลัดกับทางวัดเองที่ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อก่อนเวลาทางวัดมีงานอะไร ก็มักจะนำพระองค์นี้ลงไปให้พี่น้องประชาชนได้กราบไหว้สักการะ แต่ตอนนี้เก็บรักษาไว้อย่างดีไม่เคลื่อนย้ายไปไหน

พระพุทธรูปองคนี้ สันนิษฐานกันว่า สร้างสมัย พ.ศ. 2383 พร้อมกับตอนที่สร้างโบสถ์มหาอุตถ์ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าสมัยก่อน และเมื่อได้รับการอนุญาตให้สร้างโบสถ์แล้วตามความเชื่อในโบสถ์ก็ต้องมีพระพุทธรูปประจำไว้ภายใน  ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันนำทองไม่ว่าจะเป็นสร้อยทอง แหวนทอง มาหล่อเป็นองค์พระ  จนได้เป็นพระทองคำขึ้น เมื่อเสร็จสิ้น ก็เกิดความหวาดระแวงเพราะเนื่องจากพระเป็นพระทองคำ จึงได้คิดกุศลโลบายขึ้นมา โดยการลงรักกับองค์พระ จนเป็นพระสีดำ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปเป็นพระพุทธรูปโบสถ์ และต่อๆ มาได้ถูกเคลื่อนย้ายจากโบสถ์ไปอยู่ที่หอสวดมนต์ จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปมีคนมาพบว่าเป็นพระทองคำดังกล่าว

ซึ่งนอกจากทางวัดจะจัดทำตู้กระจกและล้อมเหล็กรอบไว้อย่างดีแล้ว ยังได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้จำนวน 3 ตัว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจคอยมั่นมาตรวจตราอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญได้มีพระในวัดผลัดกันเฝ้าดูแลไว้ไม่คลาดสายตา ซึ่งอย่างไรก็ตามคงต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกันอีกครั้ง และจะได้หาแนวทางในการดูแลรักษาต่อไป เพราะถือว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมูลค่าอย่างมาก

สำหรับวัดจุฬามณีแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาปีพ.ศ. 2310 โดยพระภิกษุรูปหนึ่งที่หนีภัยพม่ากลับมาได้ ถ้าใครผ่านไปผ่านมาจะสะดุดตากับเจดีย์เก่าแก่ที่มีความสูงถึง  38 เมตร ถือว่าเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในอ่างทอง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า