SHARE

คัดลอกแล้ว

กรมเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สั่งย้าย ผู้อำนวยการเจ้าท่าส่วนภูมิภาคที่ 5 สาขาตรัง ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการเจ้าท่าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังถูกพาดพิงเกี่ยวข้องกับคดีสินบน 20 ล้านบาทสร้างโรงไฟฟ้าขนอม ขณะที่ อัยการญี่ปุ่น ถอนฟ้องบริษัทที่เป็นคนจ่ายสินบนเพราะให้ความร่วมมือในการสอบสวน

ความคืบหน้ากรณีสำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการกรุงโตเกียว สืบสวนพบว่า บริษัทมิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ หรือ MHPS มีการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ทางการไทยเพื่อชนะประมูลเกี่ยวกับการขนอุปกรณ์ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนในไทย เมื่อปี 2556 เป็นเงินไทย 20 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทราบว่า คือ โรงไฟฟ้าขนอม หน่วยที่ 4 หรือ โรงที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช

ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ร่วมมือกับอัยการญี่ปุ่นในการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 61 ว่า มีผู้เกี่ยวข้องในระดับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เรียกรับสินบน 4-5 คนหลายหน่วยงาน เช่น กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร เจ้าของพื้นที่ และท้องถิ่น

โดยล่าสุด “อธิบดีกรมเจ้าท่าส่วนภูมิภาค” มีคำสั่งย้าย นาวาโทฉัตรกุล วินิชชนัตถ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาตรัง และอดีตผู้อำนวยการเจ้าท่าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือชื่อเดิมว่า นาวาโทสาธิต ชินวรณ์ ไปช่วยราชการที่กรมเจ้าท่า หลังตกเป็น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ถูกสอบสวนเกี่ยวข้องกับคดีสินบน อย่างไรก็ตาม นาวาโทฉัตรกุล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง เพราะว่า ตนรับตำแหน่งหลังเกิดเรื่องนี้

(ห้องทำงานปิดชั่วคราว หลังคำสั่งย้าย นาวาโทฉัตรกุล วินิชชนัตถ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาตรัง)

จากข้อมูลพบว่า การขนส่งอุปกรณ์โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทางทะเลปกติต้องขึ้นท่าเทียบเรือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี  และ ต้องขนส่งทางบก ไปยังอำเภอขนอม และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่หากส่งขึ้นท่าเทียบเรือหน้าโรงไฟฟ้าโดยตรง จะลดค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จึงมีการวิ่งเต้นสร้างท่าเทียบเรือขนอุปกรณ์  20 ล้านบาท

(พื้นที่ว่างปากน้ำขนอม จ.นครศรีธรรมราช)

โดยพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณปากน้ำขนอม ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ติดโรงไฟฟ้าขนอม ถูกระบุว่า เมื่อปี 2554 พื้นที่ดังกล่าวเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกที่เอกชนใช้สำหรับขนอุปกรณ์ และเครื่องจักรจากญี่ปุ่น เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม โรงที่ 4 ทดแทนโรงเดิมที่ได้ปลดระวาง และบริษัทเอกชนได้รื้อถอนในปี 2555  หลังขนอุปกรณ์เสร็จสิ้นตามสัญญา 1 ปีที่ทำไว้กับสำนักงานเจ้าท่า

(โรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช)

วันที่ 21 ก.ค.61 อัยการกรุงโตเกียว ประกาศถอนฟ้อง บริษัทมิตซูบิชิ ฮิตาชิ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ (MHPS) ในคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทย เนื่องจากบริษัทให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดี ภายใต้ข้อตกลงการต่อรองการรับสารภาพของญี่ปุ่น แต่อดีตผู้บริหารของบริษัท 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดยมีรายงานว่า หากไม่จ่ายสินบนดังกล่าว การปล่อยคาร์โกเครื่องจักรจะใช้เวลานาน 4-5 เดือน ซึ่งจะทำให้ MHPS เสียหายกว่า 6 พันล้านเยน

ขณะที่ MHPS ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ก.ค.61 ชี้แจงการติดสินบน การนำเข้าเครื่องจักรโรงไฟฟ้าขนอม โรงที่ 4 ว่า บริษัทให้ความร่วมมือกับการสอบสวน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ และชุมชนท้องถิ่น ในอ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ เดือนก.พ. ปี 2558 เมื่อบริษัทและผู้รับเหมา ต้องขนเครื่องจักรขนาดใหญ่ จากโรงไฟฟ้าขนอม 4 ไปไว้ที่ท่าเรือชั่วคราวใกล้เขตก่อสร้างโรงไฟฟ้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า