ทลายอีก 2 รง.ขยะพิษ ไม่มีใบอนุญาต-ปล่อยสารก่อมะเร็ง

รอง ผบ.ตร. บุกค้นโรงงานหลอมขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบมีการเผาไหม้ก่อมลพิษ  และมีการจดทะเบียนซ้ำกันหลายใบ คาดเพื่อให้ได้สิทธิ์นำเข้าวัตถุดิบกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี

วันที่ 23 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ได้นำกำลังจู่โจมบุกเข้าตรวจค้นโรงงานรีไซเคิลหลอมแยกชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกแห่งใน จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้บุกจับกุมโรงงานในเครือข่ายเดียวกันไปแล้ว

โดยได้บุกเข้าตรวจค้นโรงงานของ บริษัทนิวส์สกายเมทัลจำกัด ใน ม.9 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และพบว่ามีการจดทะเบียนซ้ำกันหลายใบอนุญาต ต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อบริษัทเดียวกันถึง 15 แห่ง เชื่อว่าเป็นการจดทะเบียนเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการนำเข้าวัตถุดิบ เนื่องจากตามใบอนุญาตใน 1 โรงงานนั้น จะมีสิทธิ์การนำเข้าวัตถุดิบได้สูงสุดเพียง 1 แสนตันต่อปี และการจดทะเบียนซ้ำเพื่อแบ่งแยกให้มีหลายโรงงาน โดยทั้ง 15 แห่งนั้น เชื่อว่าบริษัทแห่งนี้ต้องการโควต้าการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมากถึง 1.5 ล้านตันต่อปี

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ยังดำเนินการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ได้แจ้งขออนุญาตเปิดดำเนินกิจการ แต่กลับแอบลักลอบทำการหลอมโลหะ โดยใช้ถ่านหินอุณหภูมิต่ำเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งอาจก่อให้เกิดมลพิษเป็นจำนวนมาก และยังพบว่าผู้ประกอบการได้นำเอากากขยะอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วทุกมุมโลก มาวางกองไว้หลายหมื่นตัน และยังนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาเผา เพื่อละลายสารตะกั่วที่ติดอยู่กับแผ่นบอร์ด เพื่อที่จะแยกชิ้นส่วน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และยังพบว่ามีการหลอมโลหะที่มีสารปนเปื้อนหรือฉนวนชนิดพีวีซีหุ้มอยู่ ซึ่งเป็นสารอันตรายก่อมะเร็ง และตัวโรงงานที่ดำเนินการหลอมโลหะนั้น ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญโรงงานแห่งนี้ ใช้ถ่านหินชนิดการเผาไหม้ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ 400-500 องศาเซลเซียส เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งปกติตามโรงผลิตไฟฟ้าจะต้องเผาไหม้ที่ 1,000 องศา จึงทำให้โรงงานแห่งนี้ ก่อมลพิษจำนวนมาก และยังไม่ได้ขออนุญาตที่ถูกต้อง ทั้งกระบวนการนำเข้า และยังไม่มีการจัดทำประชาคม ให้ประชาชนได้รับทราบ เพียงแต่มีการนำไปปิดประกาศเอาไว้ยังที่ว่าการอำเภอเท่านั้น

หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์ บอกว่า ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการทั้ง 15 โรงงานในชื่อเดียวกันว่า ไม่แจ้งประกอบกิจการโรงงาน และจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งมีไว้และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะได้ให้อุตสาหกรรมจังหวัด สั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

https://www.youtube.com/watch?v=f7qjnFMJHbw