SHARE

คัดลอกแล้ว

คู่รักชาวอเมริกันคลอดบุตรจากตัวอ่อนแช่แข็งอายุ 24 ปี ที่เคยได้รับบริจาคจากสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นการเกิดจากตัวอ่อนแช่แข็งนานที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่วงการแพทย์เริ่มการทำเด็กหลอดแก้ว 

สำนักข่าวบีบีซีรางานว่า นายเบนจามิน จิบสัน และนางทีนา จิบสัน สองสามีภรรยาชาวอเมริกัน ให้กำเนิดเด็กหญิงเอ็มมา เวน จิบสัน ซึ่งเป็นการเกิดจากตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งกว่า 24 ปี จากคู่รักชาวอเมริกันคู่หนึ่ง หรือเรียกว่า การปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

การปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF (In-vitro Fertilization) เป็นการนำไข่และอสุจิมาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว (ตัวอ่อน) ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

หนูน้อยเอ็มมาเกิดจากตัวอ่อนที่ปฏิสนธิตั้งแต่ปี 2535 หนึ่งปีหลังจากนางจิบสัน ผู้เป็นแม่เกิด ก่อนที่แพทย์จะนำมาละลาย และใส่เข้าไปยังมดลูกของนางจิบสันในเดือนมีนาคม และคลอดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยหนูน้อยเอ็มมามีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี โดยตัวอ่อนอายุ 24 ปีนี้เชื่อว่าถูกแช่แข็งนานกว่าตัวอ่อนอื่นๆที่อยู่รอดมาได้

นางจิบสันกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “คุณเชื่อไหม? ฉันเพิ่งจะอายุ 25 ปีเท่านั้น เจ้าตัวอ่อนนี้อาจจะเคยเป็นเพื่อนรักของฉันก็ได้ และฉันเพียงต้องการมีลูก ไม่ได้สนใจเรื่องสถิติที่โลกจะจดจำหรือไม่”

ครอบครัวจิบสันได้รับการบริจาคตัวอ่อนจาก ศูนย์บริจาคตัวอ่อนแห่งชาติ (National Embryo Donation Center) ที่จะบริจาคตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมเทียม หรือแพทย์มักเรียกว่า “ทารกหิมะ” (snow babies) เนื่องจากถูกเก็บแช่แข็งมาเป็นเวลานาน แก่ผู้ที่มีบุตรยาก และยังสนับสนุนให้คู่รักที่ไม่ต้องการมีลูกเพิ่มมาบริจาคตัวอ่อน เพื่อที่จะให้คู่รักคู่อื่นที่มีบุตรยากสามารถเป็นพ่อแม่คนได้เช่นเดียวกับครอบครัวนี้

นายกิบสันกล่าวว่า “เอ็มมาเป็นปาฏิหารย์ เธอดูน่ารักสมบูรณ์แบบหลังจากถูกแช่แข็งมาหลายปี”

อย่างไรก็ตามสองสามีภรรยาคู่นี้ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับทารกเอ็มมาแต่อย่างใด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์

 

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า