Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

โฆษกรัฐบาล เผย ตรวจสอบเชิงเทคนิครู้ต้นตอคลิปเพลง “ประเทศกูมี” แล้ว ชี้ประเทศไทยคือผู้เสียหาย เสียใจเยาวชนใช้ความสามารถมาทำแบบนี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 ต.ค. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเผยแพร่คลิปวิดีโอเพลงแร็พ “ประเทศกูมี” ผ่านในโซเชียลมีเดียว่า รัฐบาลรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้ เพราะคิดว่า เยาวชนน่าจะใช้ความรู้ความสามารถด้านดนตรีในทางที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อแผ่นดินเกิดของตัวเองมากกว่านี้ รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนคนอื่น ไม่อยากให้คนคิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่ เป็นเรื่องดี หรือเป็นเรื่องสนุก เยาวชนที่ทำคลิปดังกล่าวไม่แน่ใจว่า ทำเพราะความตั้งใจของตัวเอง หรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่ขอฝากเตือนไปว่า คนที่เสียหายที่สุดไม่ใช่รัฐบาล แต่คือประเทศไทย

“คลิปนี้เผยแพร่ไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในคลิปมีซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษ ผมเห็นเนื้อหาเหมือนต่อว่ารัฐบาล แต่สุดท้ายคนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย คนทำอาจจะได้รับความสนุกสนาน สะใจในการใช้ข้อมูลตอบโต้หรือกล่าวว่ารัฐบาล แต่อยากให้ดูว่าสุดท้ายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย” โฆษกรัฐบาล กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีหลายฝ่ายสอบถามรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร เรื่องนี้เชื่อว่า มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว ย้ำในส่วนรัฐบาลเรารู้สึกเสียใจ เพราะสุดท้ายประเทศไทยต้องรับทุกอย่าง ประเทศไทยเป็นประเทศของเราเอง จึงไม่อยากให้เยาวชนทำร้ายประเทศไทยอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการสั่งห้ามเข้าถึงคลิปดังกล่าวหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การเผยแพร่คลิปในโซเชียลมีเดียสามารถไปได้หลายทาง แม้เราจะปิดต้นตอ แต่ภาพที่ออกไปแต่ละคนก็สามารถแชร์ต่อได้ การควบคุมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากการตรวจสอบเชิงเทคนิค ทำให้รู้ได้ว่า คลิปมีที่มาจากแหล่งใด อย่างไรก็ตามไม่ว่า ใครจะเป็นคนทำคลิป หรือคลิปมาจากที่ใด ประเทศไทยคือผู้ที่เสียหาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สั่งสอบคนทำเพลง “ประเทศกูมี” ขัดคำสั่งคสช.? หลังแร็พเสียดสี

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า