ประเด็นคือ – นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวในซีเรีย
จากกรณี สหรัฐ และพันธมิตร คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส เปิดปฏิบัติการยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรีย โดยมีเป้าหมายที่คลังเก็บอาวุธเคมี เพื่อตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีทางอากาศในเมืองดูมา พื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏ ในเขตกูตาตะวันออก จนมีพลเรือนเสียชีวิตกว่า 70 คน และบาดเจ็บจำนวนหลายร้อยคน เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาซีเรียเปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บจากการถูกโจมตีครั้งนี้จำนวน 3 ราย
และในวันนี้ (14 เม.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหว โดยมีการนำข้อมูลทั้งจากของเราเองและมิตรประเทศมาวิเคราะห์ เพื่อประเมินสถานการณ์
ทั้งนี้ในเบื้องต้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีก สหรัฐฯ มีทหารในซีเรีย 2,000-3,000 คน และน่าใช้วิธีการโจมตีทางอากาศเป็นหลัก โดยทิ้งระเบิดไปใกล้กับจุดเก็บอาวุธเคมี ซึ่งเมืองที่น่าเป็นห่วงก็คือกรุงดามัสกัส
ส่วนผลกระทบในภูมิภาคเอเชีย นายปณิธาน กล่าวว่า ยังไม่มี แต่ก็ไม่ประมาท เพราะซีเรียได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย อีกทั้งรัสเซียกับจีนก็มีความใกล้ชิดกัน ซึ่งต้องรอดูว่า ในเวทีสหประชาชาติ จะมีการเจรจาเรื่องนี้กันอย่างไร โดยจุดยืนของไทยนั้น อยู่ตรงกลาง
ส่วนการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม สหรัฐอเมริกาที่ อาคารเพนตากอน นายปณิธานกล่าว่า พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมในระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย.นี้