ยุคทุเรียน 4.0 ขายผ่านออนไลน์ ล้งชาวไทยคัดทุเรียนพื้นบ้านเกรดพรีเมี่ยมส่งต่อล้งจีน และที่กำลังมาแรงไม่แพ้พันธุ์หมอนทอง ก็คือทุเรียนพวงมณี ตลาดมีความต้องการมากขึ้น เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย แต่สำหรับคนที่อยากลองชิมทุเรียนพวงมณีในกรุงเทพอาจจะหาซื้อยากสักหน่อย เพราะผู้ค้านิยมขายสู่ตลาดต่างประเทศมากกว่า
และนี่คือหน้าตาของทุเรียนจิ๋ว พันธุ์พวงมณี ลูกมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ ให้เนื้อสีเหลืองนวลชวนรับประทาน จุดเด่นของทุเรียน พวงมณี อยู่ตรงที่เนื้อละเอียด รสชาติหวาน หากกินในช่วงที่สุกพอเหมาะรสชาติอร่อยมาก ทำให้ทุเรียนจิ๋วกลายเป็นทุเรียนน้องใหม่มาแรง ที่ใครๆ ก็อยากลิ้มลอง
นายฉัตรพัฒน์ กาญจนะ ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ไทย (ล้งทุเรียนไทย) กล่าวว่า ทุเรียนพวงมณีถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช้ทุเรียนอ่อน และตอนนี้ตลาดกำลังต้องการทุเรียนเล็ก น้ำหนักอยู่ที่ 0.4 – 0.9 กิโลกรัม ต้องบอกว่ายิ่งเล็กราคายิ่งดี ทุเรียน น้ำหนัก 0.4 กิโลกรัม จะรับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 110-120 บาท ถ้าทุเรียน น้ำหนัก 0.9 กิโลกรัม รับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 80 บาท
นายฉัตรพัฒน์ กล่าวว่า ด้วยเนื้อที่หวาน อร่อย เม็ดเล็ก ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมของตลาด โดยผู้ค้าชาวไทยจะติดต่อซื้อขายทุเรียนพวงมณีกับล้งชาวจีนผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางและเสียเวลาหาตลาดก็สามารถซื้อขายกันได้ตามความพอใจ
เมื่อถึงฤดูผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนจะได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากตลาดในประเทศ และต่างประเทศ อีกทั้งการบุกซื้อถึงสวนของล้งจีน ทำให้ราคาทุเรียนพุ่งสูงขึ้น พูดได้ว่าในปัจจุบันนี้จะหาซื้อทุเรียนราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 100 บาทนั้น ไม่มีอีกแล้ว
ล้งจีน คืออะไร
สำหรับเด็กรุ่นใหม่หรือใครอีกหลายคน อาจจะยังไม่รู้จัก ‘ล้ง’ อธิบายแบบเข้าใจง่าย ก็คือ ‘ล้ง’ ทำหน้าที่เป็นพ่อค้าที่เข้ามารวบรวมผลไม้ และบรรจุผลไม้ เพื่อจัดจำหน่ายไปยังที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยเรามีล้งที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และไม่ใช่เชื้อสายจีน ล้งผลไม้บางราย เข้าไปซื้อผลไม้จากสวนผลไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีปริมาณผลไม้จำนวนมากพอสมควร ทั้งลำไย ทุเรียน และมังคุด โดยเข้าไปประเมินปริมาณผลผลิตผลไม้ที่สวน ตั้งแต่ต้นผลไม้นั้นเริ่มออกดอก ชาวสวนขนาดใหญ่เหล่านี้ เป็นผู้ที่มีความรู้มีการศึกษาดีพอสมควร สามารถต่อรองราคา และหาทางเลือกที่ตนจะได้ประโยชน์ดีที่สุด
ข้อดีของ ล้ง คือ ตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง ทำให้ไม่ต้องถูกกดราคา ไม่ต้องหาตลาดเอง ไม่ต้องเสี่ยง เพราะล้งจะเข้าไปรับซื้อผลไม้ถึงสวน จับจองกันตั้งแต่ผลผลิตเริ่มออกดอก เมื่อถึงเวลาจัดก็เก็บเข้าไปจัดเก็บ คัดแยก แพ็คลงกล่อง และส่งขายไปขายประเทศจีน หรือส่งขายแก่ธุรกิจชาติเดียวกัน ชาวสวนผลไม้และล้งจะต่อรองตกลงราคาว่า ล้งจะต้องจ่ายเงินเหมาสวนทั้งหมดในมูลค่าเท่าไร แล้วจ่ายเงินมัดจำเท่าไหร่ อาจจะมีเงื่อนไขให้ชาวสวนต้องช่วยดูแลสวน และป้องกันการขโมยอย่างไรบ้าง
เมื่อทำสัญญาซื้อขายเหมาสวนล่วงหน้าและจ่ายเงินมัดจำแล้ว ภาระความเสี่ยงความสูญเสียที่เกิดจากปริมาณฝนตกมากน้อย ลมแรง และแมลงลง เป็นของผู้ซื้อเหมาสวน ชาวสวนผลไม้ส่วนมาก จะมีความรอบรู้ ด้านการตลาดน้อยกว่าล้ง เพราะจะต้องรู้ว่าตลาดไหน ภายในหรือต่างประเทศต้องการผลไม้คุณภาพอย่างไร จะต้องคัดเกรดแบบไหน จะต้องหีบห่อด้วยวิธีใด เช่น ใส่กล่อง ใส่โฟม ใส่เข่ง และจะต้องขนส่งออกจากสวนแบบไหนในเวลาใด เพื่อที่จะขนส่งต่อไปขึ้นเครื่องบินหรือการขนส่งแบบอื่นๆ อย่างไรให้ทันเวลา ซึ่งล้งน่าจะคุ้นเคยและมีข้อมูลการตลาดที่ดีกว่าประหยัดต้นทุนกว่า
แต่ที่น่าห่วงคือ การผูกขาดการค้า การกำหนดราคารับซื้อของล้งจีน ส่งผลให้ราคาถูกบิดเบือน แทรกแซง และที่สำคัญผลไม้ดีๆอาจไม่ตกถึงมือผู้บริโภคคนไทย