นราธิวาส ! ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 13 อำเภอ

ประเด็นคือ- จากสถานการณืน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 13 อำเภอ หรือทั้งจังหวัด

ความคืบหน้าสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดนายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส ได้ประกาศพื้นที่ 2 เทศบาล 301 หมู่บ้าน 60 ตำบล 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว หลังจากสภาวะฝนที่แพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ถึงไม่หนักเหมือน 1 ถึง 2 วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ เร่งตรวจสอบและทยอยสำรวจความเสียหาย เพื่อที่จะได้ตั้งงบประมาณในการช่วยเหลือฟื้นฟูประชาชนที่ประสบอุทกภัยได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นนโยบายที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

ในส่วนของสภาพอากาศโดยทั่วไปในขณะนี้ มีฝนตกลงมาแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ เป็นช่วงๆ แต่เบาบางลงเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวานที่ผ่านมา (28 พ.ย. 60) ส่วนพื้นที่ที่ถือว่ายังคงวิกฤติและต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ อยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย 

1. อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งได้รับอิทธิพลของน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะระบายลงสู่ทะเลด้านปากอ่าวของ อ.ตากใบ โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งของแม่สุไหงโก-ลก จำนวน 8 ชุมชน ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูง โดยเฉลี่ย 1 เมตร ถึง 2 เมตร ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 8 ชุมชน ต้องอพยพสิ่งของสัมภาระที่จำเป็น ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 1 และเทศบาล 4 จำนวน 40 ครัวเรือน รวม 253 คน แต่ชาวบ้านอีกส่วนใหญ่ยังคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักชั้น 2

2. อ.ระแงะ ซึ่งได้รับอิทธิพลของน้ำป่าจากพื้นที่ อ.จะแนะ ไหลลงมาสมทบคลองตันหยงมัส เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา ส่งผลทำให้มีน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน รวมทั้งถนนภายในหมู่บ้านในพื้นที่ 47 หมู่บ้าน 7 ตำบล ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 2,740 ครัวเรือน รวม 13,700 คน โดยมีระดับน้ำท่วมขังที่รอการระบายสูงในภาพรวมโดยเฉลี่ย 1 ถึง 1.50 เมตร

3. อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากพื้นที่ อ.ระแงะ เพื่อไหลระบายลงสู่แม่น้ำบางนรา มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 15 ชุมชน 54 หมู่บ้าน 7 ตำบล ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ จำนวน 5,921 ครัวเรือน รวม 24,624 คน โดยมีระดับน้ำท่วมขังบ้านเรือนพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน รวมทั้งถนนในหมู่บ้าน โดยเฉลี่ย 1 เมตร

ด้านการช่วยเหลือนั้น มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทยอยนำข้าวสาร อาหารแห้ง รวมทั้งน้ำดื่มออกตระเวนแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดย น.อ.บุญเกิด มูลกัน ผู้บังคับการกรมทหารพรานนาวิกโยธินภาคใต้ ได้ร่วมกับกำลังพลนำข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่ม ลงเรือท้องแบนลุยน้ำแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านศาลาวดี ม.6 ต.ละหาร อ.ยี่งอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน