นักศึกษามธ.ให้คะแนนนโยบาย 5 พรรคการเมือง แก้ปัญหาPM2.5-ปากท้อง-คอร์รัปชั่น

ในการเสวนาการเลือกตั้ง “นโยบายแรกที่คุณจะทำ หากได้เป็นรัฐบาล” จัดโดยสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเครือข่าย We Watch ที่อาคารบร. 1 ห้อง 201 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ เข้าร่วม ได้แก่ พรรณิการ์ วานิช จากพรรคอนาคตใหม่ ร.ท.หญิง สุนิสา ทิวาดำรง จากพรรคเพื่อไทย อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคประชาธิปัตย์ เกตินิคม กฎษณะเศรณี พรรครวมพลังประชาชาติไทย และกรวีร์ ปริศนานนทกุล จากพรรคภูมิใจไทย

ตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 5 ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัญหาปากท้องและปัญหาคอร์รัปชั่น โดยหลังจบการแสดงวิสัยทัศน์มีการให้คะแนนนโยบายที่ได้รับความนิยมที่สุดจากนักศึกษาที่เข้าร่วม 100 คน

คำถามแรกกล่าวถึงประเด็นการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5

พรรครวมพลังประชาชาติไทยกล่าวว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้มีความพยายามแก้ปัญหาเชิงระบบด้วยการส่งจดหมายไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีให้เร่งแก้ปัญหา และได้พยายามหาต้นตอของปัญหา กล่าวคือการก่อสร้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสี หลายสายพร้อมกัน และมีการสร้างห้างสรรพสินค้าซึ่งจะหยุดก่อสร้างก็ทำได้ยากเพราะเป็นการขยายเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง ประเทศอื่นก็เจอปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่เราต้องแก้ปัญหาด้วยการให้ไซด์ก่อสร้างรับผิดชอบ  โดยปรับหากสร้างผลกระทบต่อพื้นที่แวดล้อม เราต้องทำให้ค่าปรับแพงกว่าค่าจัดการไม่ให้มีฝุ่นควันออกมานอกไซด์ นอกจากนี้ต้องแก้ปัญหาที่ตัวบุคคลโดยต้องใช้ความร่วมมือจากทุกคนในการใช้ขนส่งสาธารณะด้วย

พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสริมให้ใช้พื้นที่โล่งที่เกิดจากการเวนคืนเพื่อสร้างทางด่วนแจ้งวัฒนะ-บางโคล่ซึ่งยกเลิกโครงการไปแล้วมาสร้างเป็นสวนสาธารณะ และปรับให้การขนส่งสาธารณะเป็นรถไฟฟ้าเป็นหลัก เช่น รถเมลล์ไฟฟ้า มีเวลามาถึงป้ายชัดเจน นอกจากนี้ประเทศไทยควรจะก้าวข้ามการใช้รถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์อิเล็กทริกซึ่งขณะนี้จีนกำลังจะย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะเข้ามาในไทย ส่วนเรื่องปัญหาเฉพาะหน้า กล่าวว่ารัฐบาลนี้แก้ไขปัญห่ได้ไม่ทันท่วงที เห็นได้จากผ้าปิดปากกันฝุ่นถูกปิดกั้นการนำเข้า ไม่ใช้มาตรา 44 ทั้งที่สมควรจะใช้ในเรื่องนี้

พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่ามหานครใหญ่ๆขับเคลื่อนโดยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ พรรคภูมิใจไทยจึงอยากพัฒนาตรงนี้ ซึ่งจะลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ด้วย นอกจากนี้กรุงเทพยังมีแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองต่าง ๆ มากมาย เราึงควรปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ทำให้ขนส่งทางน้ำกลายเป็นทางเลือก และพรรคเองยังมีนโยบายทำงานหรือไปเรียนสี่วัน ซึ่งจะช่วยในการสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้จำนวนรถยนต์ในถนนน้อยลงได้ด้วย

ด้านพรรคเพื่อไทยคิดว่ามาตรการที่ยั่งยืนที่สุดคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะลดการใช้รถที่มีควันพิษ เพื่อลดปัญหาการเผาไหม้เชื้อเพลิงดีเซล นอกจากนี้ยังมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและประชาชนหันมาเพิ่มปริมาณรถยนต์สะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงดูแลไม่ให้แบตเตอรีรถยนต์มีราคาแพง ด้วยการ ลดกำแพงภาษีรถพลังสะอาด และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการจัดตเตรียมพื้นที่ชาร์จรถไฟฟ้า ส่วนในด้านการแก้ปัญหาระยะยาวก็ต้องมีการรณรงค์ให้ประชาชนเลิกขับรถ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรถยนต์ โดยต้องพยายามให้คนเดินในเมือง ระบบขนส่งของประเทศต้องพัฒนาให้แทรกเข้าไปในตรอกซอกซอยด้วย เช่นบ้านอยู่บางใหญ่ ก็ต้องออกมายังรถไฟฟ้าได้สะดวก

ส่วนพรรคอนาคตใหม่ แบ่งการแก้ปัญหาออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือวิสัยทัศน์ผู้นำ โดยกล่าวว่าเรื่องฝุ่นละอองเป็นเรื่องไม่มีอาณาเขต การคาดโทษผ.อ.เขตหรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เนื่องจากฝุ่นละอองข้ามเขตได้ ทางที่ดีผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ ตัดสินใจได้เด็ดขาดและเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศไม่ใช่มุ่งแก้แต่ละเขตเท่านั้น ส่วนที่สองคือการแก้ปัญหาระยะสั้น เลิกโกหกประชาชน โดยแอปพลิเคชันของเอกชนและราชการต้องเชื่อมโยงกันให้ประชาชนรู้ว่าตอนนี้เจอฝุ่นละอองมากแค่ไหน นอกจากนี้ต้องมีการเตือนประชาชนให้ทราบในเชิงรุก ไม่ใช่เพียงเผยแพร่ค่าฝุ่นละอองให้ตรวจสอบกันเอง ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าต้นเหตุจริง ๆ คือรถยนต์และการก่อสร้าง หากสถานการณ์วิกฤตก็ต้องเร่งปิดโรงเรียนเพื่อลดการผลิตฝุ่นเหล่านี้ให้น้อยลง และสลับกันใช้รถวิ่งเป็นทะเบียนคู่คี่ตามมาตรการในยุโรป และลดราคาการโดยสารสาธารณะให้คนไม่เดือดร้อน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวต้องใช้วิทยาศาสตร์ตรวจสอบที่มาของฝุ่นให้ชัดเจน ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบโดยสารสาธารณะ พัฒนาอุตสาหกรรมรถยนตฺไฟฟ้าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยสรุปแล้วในคำถามนี้ ผู้เข้าร่วมเสวนาให้คะแนนนโยบายของพรรคอนาคตใหม่เป็นอันดับ 1

คำถามที่ 2: จะยกระดับการศึกษาได้อย่างไร?

พรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าปัญหาหลักของการศึกษาคือความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการเปลี่ยนแปลงการศึกษาให้มีคุณภาพได้ในระยะเวลาอันสั้นที่สุดจึงไม่คิดใช้การผ่าตัดปฏิรูปการศึกษาซึ่งกินเวลานานมาก ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีพรรคจึงคิดว่าการเปิดการศึกษาให้เป็นระบบออนไลน์ที่ฟรีจะทำให้คนเข้าถึงอาจารย์ที่เก่งที่สุดได้  เรื่องนี้ก็จะทำให้นักเรียนในที่ห่างไกลได้เรียนกับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพได้

พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าต้องทำให้ระบบการศึกษาทำให้คนคิดเป็น ไม่ใช่ท่องจำจากในตำรา และต้องให้นักเรียนกล้ายืนยันสิทธิของตัวเอง โดยยกตัวอย่างระบบการศึกษาในต่างประเทศว่ามีการฝึกการคิดวิเคราะห์ผ่านการเขียน ค้นคว้าและหาหลักฐานมาสนับสนุนความเชื่อ นอกจากนี้เด็ก ๆ ต้องกล้าพูดความคิดของตัวเอง นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยจะมีการส่งเสริมให้สิทธิการกู้ยืมเงินกยศ.เข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้าและมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับนักเรียนคนอื่น

พรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า การศึกษาคือจุดเริ่มต้นของควาเมหลื่อมล้ำในสังคมไทยเนื่องจากโรงเรียนมีคุณภาพไม่เท่ากัน การศึกษาฟรีต้องฟรีจริงตลอดระยะเวลา 12-15 ปีโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และโรงเรียนต้องมีคุณภาพดี พรรคอนาคตใหม่มีโครงการเมกะโปรเจ็กการศึกษาภายใน 1-3 ปี โดยตั้งเป้าพัฒนาคุณภาพโรงเรียนให้เท่าเทียมกันมากขึ้น โดยมุ่งพัฒนาโรงเรียนที่ขาดแคลนก่อน นอกจากนี้ยังอาจปรับโครงสร้างการศึกษาให้มีความเป็นราชการน้อยลง โดยเสนอให้โรงเรียนปกครองโดยคณะกรรมการโรงเรียน ที่ประกอบด้วยตัวแทนครู ผู้ปกครอง และคนในชุมชน ตัวแทนนักธุรกิจ และตัวแทนของส่วนราชการ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนในการออกแบบว่ากิจกรรมการเรียนการสอนจะเป็นอย่างไร สุดท้ายคือการปรับหลักสูตรกลางให้บางลงมากที่สุด ลดวิชาการ เพิ่มวิชาชีพและวิชาชีวิต ให้โรงเรียนมีส่วนเติมหลักสูตรเข้าไปได้เองตามความจำเป็นในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้คนมีงานทำในท้องถิ่นและความเจริญเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ

พรรครวมพลังประชาชาติไทย แบ่งกลุ่มนโยบายออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มปกติ ที่ควรมีเวลาพักจากการเรียนสักปีเพื่อค้นหาตัวเอง ส่วนกลุ่มที่ 2  เป็นกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่มีทางเข้าไปเรียนหรือเป็นผู้นำครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก พรรคพลังประชาชาติไทยต้องการให้เรียนฟรีถึงปวส. เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการ และสุดท้ายพรรคฯจะสนับสนุนกอศ. แต่ย้ำว่าผู้ค้ำประกันต้องชัดเจนว่าเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาผู้ขอทุนไม่จ่ายหนี้ทำให้ผู้ค้ำประกันเดือดร้อน

ด้านพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้มีการทำ e-learning เพื่อให้เรียนทางไกลได้ และสนับสนุนการกระจายอำนาจทางการศึกษา ให้ท้องถิ่นสามารถออกแบบการจัดการการบริหารโรงเรียนหรือออกแบบหลักสูตรเองได้ให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น

นโยบายการศึกษาที่ถูกใจผู้เข้าร่วมเสวนามากที่สุดได้แก่พรรคอนาคตใหม่ รองลงมาคือประชาธิปัตย์ รวมพลังประชาชาติไทย ภูมิใจไทย และเพื่อไทยตามลำดับ

คำถามที่ 3 : หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร

พรรคเพื่อไทยเสนอวิธีลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาสเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้ประเทศ โดยเริ่มจากการยกสถานะและยกระดับรายได้ของเกษตรกรซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศที่จะเป็นพื้นฐานกำลังซื้อที่จะทำให้เงินสะพัดและส่งผลต่อเนื่องในเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ

พรรคอนาคตใหม่กล่าวว่าที่ผ่านมามีการประกันราคาและจำนำราคา พรรคอนาตใหม่ไม่เห็นด้วย เพราะการแก้ไขอย่างย่งยืนต้องสร้างอุตสาหกรรมให้ชาวนาเป็นผู้ประกอบการเอง รัฐต้องแก้ทุนผูกขาดในประเทศไทยซึ่งจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ พรรคจะส่งเสริมให้เพิ่มธนาคารท้องถิ่นเพื่อให้ยอดธนาคารต่อจำนวนประชากรมากขึ้น โดยเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพแต่ไม่มีต้นทุนทำให้ไม่สามารถเป็นผู้ประกอบการได้ การมีธนาคารท้องถิ่นจะปล่อยเงินกู้ได้ง่ายกว่า โดยเรื่องนี้จะจัดการเรื่องหนี้นอกระบบในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ยังจะเพิ่มอุตสาหกรรมในประเทศ เช่น รถเมล์NGV รถไฟฟ้าสามารถผลิตได้ในประเทศไทย ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกส่วนหนึ่งด้วย

ส่วนรวมพลังประชาชาติไทยเองก็มุ่งเน้นที่ภาคเกษตรกรรม โดยมองว่าเศรษญกิจจะดีขึ้นต้องช่วยคนสองกลุ่มที่เปราะบางคือเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน โดยรัฐเข้ามามีส่วนช่วยกำหนดต้นทุนเพื่อให้เกษตรกรรู้ต้นทุนที่แท้จริงและสามารถกำหนดราคาขายได้แท้จริง นอกจากนี้พรรคยังส่งเสริมการรับรองพันธุ์ข้าวอย่างทั่วถึงเพื่อไม่ให้ถูกโรงสีกดราคาด้วย

ด้านประชาธิปัตย์ ชี้ว่าการแก้ปัญหาเศราฐกิจต้องลดความหลื่อมล้ำและเพิ่มรายได้ มาตรการลดแลกแจกแถมยังจำเป็นต้องดำเนินการต่อเพื่อดึงประชาชนที่เดือดร้อนขึ้นมาจากความยากจนให้ได้ เช่น จำเป็นต้องมีการประกันราคาข้าวซึ่งจะทำให้ชาวนามีรายได้ขึ้นมาได้  นอกจากนี้ก็มีการประกันค่าแรง โดยจะไม่ใช้การค่าแรงขั้นต่ำซึ่งจะผลักภาระไปยังผู้ประกอบการ แต่รัฐจะประกันในกรณีที่ประชาชนได้ค่าแรงปีหนึ่งต่ำกว่า 120,000 บาท รัฐจะเป็นผู้จ่ายให้จนครบจำนวน ส่วนในส่วนของการเพิ่มรายได้ พรรคยกตัวอย่างและต้องมีการส่งสริมพันธุ์ข้าวให้เป็นพันธุ์ข้าวพรีเมียมเพื่อเพิ่มรายได้ ปลูกพันธุ์ข้าวที่ตลาดต้องการ จะมีการสร้างราคายางพารา พร้อมเสนอว่าเขตเศรษฐกิจการท่องเที่ยวควรมีการจัดโซนนิ่งให้เรียนร้อย เพื่อให้สถานท่องเที่ยวปิดเลยเวลาได้เพราะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ

และภูมิใจไทย กล่าวว่าจะไม่แจกบัตรคนจน เพราะไม่เชื่อว่าเป็นการแก้ไขปัญหา แต่พรรคเชื่อในการเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรโดยเสนอให้ใช้ระบบแบ่งปันกำไรแทนระบบจำนำข้าวหรือประกันราคาซึ่งจะเป็นภาระของรัฐบาล ระบบของพรรคภูมิใจไทยเรียกว่า profit sharing โดยจะเอาเงินกำไรที่เกิดขึ้นจากนายทุนปันคืนไปให้ชาวนาเพื่อให้ชาวนาได้เงินเพิ่มและลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยงเสนอการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินทรัพย์ที่ประชาชนมีอยู่แล้ว เช่น รถยนต์สามารถนำมาสร้างรายได้ให้ครอบครัวเพิ่ม และสุดท้ายเสนอสร้างพืชเศรษฐกิจใหม่ โดยสนับสนุนกัญชาเสรี ทำกัญชาเพื่อยารักษาโรค เพราะวันนี้ประเทศไทยมีภูมิอากาศเหมาะแก่การปูกกัญชามากที่สุด หากเรามีพืชเศรษฐกิจใหม่จะสร้างรายได้แก่พี่น้องเกษตรกรมากขึ้น

ในด้านนี้นโยบายของพรรคอนาคตใหม่ยังคงถูกในนักศึกษาที่เข้าร่วมเสวนามากที่สุด รองลงมาคือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคเพื่อไทย

คำถามที่ 4 : แต่ละพรรคเสนอการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นอย่างไร

พรรคอนาคตใหม่เสนอว่าการปราบโกงแบบเป็นประชาธิปไตยต้องเป็นการที่ประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยรัฐมีหน้าที่ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ เป็น Opean Data ให้ได้มากที่สุดโดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ในขระเดียวกันรัฐต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบคอร์รัปชั่นของประชาชนด้วย เช่นกรณีรถไฟราชภักดิ์ไม่ควรถูกดำเนินคดี และที่สำคัญประชาชนต้องรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของภาษี โดยพรรคเสนอนโยบายผลักดันให้ประชาชนเลือกได้ว่าจะนำภาษีไปใช้ส่วนไหนของงบประมาณประเทศ เช่น มีช่องให้ติ๊กได้ว่าภาษีหนึ่งก้อนของตนจะแบ่งไปให้การคมนาคมหรือการศึกษากี่เปอร์เซ็น

พรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่าการโกงถือเป็นปีศาจ แบ่งได้เป็นการโกงทั้งระบบ และการโกงที่เราควบคุมได้ นอกจากนี้ยังมีปีศาจอีกตัวหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์แย่ลงคือปีศาจคำว่าเคยชิน โดยพรรคเรียกร้องให้มี social sanction สร้างสังคมต้านคนโกงขึ้นมาโดยใช้สังคมออนไลน์มาช่วย

ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าตนเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้รัฐมนตรีหลายท่านต้องติดคุกไปแล้ว และสนับสนุนให้ทุกคนต้องมีความกล้าในการกล้าตรวจสอบ นอกจากนี้ประชาธิปัตย์ยังเสนอ Government Technology ที่ช่วยในการบันทึกตรวจสอบระบบให้ประชาชนสามารถตรวจสอบหน่วยงานราชการได้ตลอดเวลา

พรรคภูมิใจไทยส่งเสริมให้มีการตรวจสอบ ทั้งการตรวจสอบกันเองในรัฐสภาผ่านกลไกพรรคฝ่ายค้านโดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นประชาธิปไคย นอกจากนี้ต้องมีการทำให้องค์กรเหล่านี้เป็นอิสระจริง ๆ และที่สำคัญที่สุดต้องมีการตรวจสอบจากประชาชนซึ่งทรงพลังที่สุด อายุเต็มที่ของรัฐบาลมีเพียง 4 ปี เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการตรวจสอบ นักการเมืองก็ต้องรักษาความนิยมไว้โดยการไม่โกงให้เสื่อมความศรัทธา

พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าต้องทำให้สังคมไทยเห็นว่าคนที่โกงหรือคอร์รัปชั่นถูกลงไทษ ไม่ใช่มีอำนาจมากแล้วก็ลอยนวลได้ ในยุคนี้การแต่งตั้งข้าราชการและองค์กรอิสระมีการแต่งตั้งคนของตัวเองทำให้หลายกรณีไม่มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร นอกจากนี้บ้านเมืองยังต้องมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นไม่ให้ถูกดำเนินคดีด้วย

สำหรับนโยบายปราบโกงที่นักศึกษาที่ร่วมเสวนาชื่นชอบที่สุดยังคงเป็นของอนาคตใหม่ ตามมาด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคภูมิใจไทยตามลำดับ