SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่ ช่องโมเดิร์น ไนน์ ทีวี จัดรายการดีเบตเลือกตั้ง “คนใหม่ การเมืองใหม่” ดำเนินรายการโดย อรวรรณ ชูดี (กริ่มวิรัตน์กุล) และวีระ ธีระภัทรานนท์ โดยเชิญตัวแทนจากพรรคการเมือง และมีนิสิต-นักศึกษาอีก 100 คน จาก 16 สถาบันการศึกษาเข้าร่วม มีช่วงให้ทั้ง 100 คนร่วมแสดงความเห็น ด้วยการชูสัญลักษณ์ LIKE นิ้วโป้งชูขึ้นเห็นด้วย และ นิ้วโป้งคว่ำลง แสดงว่าไม่เห็นด้วย

ภาพจาก : FB สุวิทย์ มิ่งมล

ผลคะแนนที่ออกมา จากคำถาม 4 ข้อ คือ
1.เห็นด้วยหรือไม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต / เห็นด้วย 6 เสียง ไม่เห็นด้วย 94 เสียง
2.เห็นด้วยหรือไม่ ที่รธน.60 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ / เห็นด้วย 1 เสียง ไม่เห็นด้วย 99 เสียง
3. เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย / เห็นด้วย 2 เสียง ไม่เห็นด้วย 98 เสียง
4.เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น / เห็นด้วย 17 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง

ต่อมา อรวรรณ ที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถูกบอร์ด อสมท สั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดรายการดีเบตพรรคการเมือง โดยระบุว่า ในฐานะ 1 ในพิธีกร และผู้ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการดีเบต ทั้ง 2 ครั้งของช่อง 9 ขอยอมรับการตัดสินใจของบอร์ด อสมท และผู้บริหารในการให้ยุติการทำหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ในฐานะวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่มีอายุงานเกือบ 30 ปี ดิฉันไม่ยินยอมรับการตราหน้าว่าทำหน้าที่ลำเอียง

วันที่ 2 มี.ค. ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้พูดคุยกับ นายเพิ่มพูน คเชนชาติ นักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม หนึ่งใน 100 คนที่ร่วมในเวทีดีเบตดังกล่าว ซึ่งเล่าว่า เข้าร่วมเวทีนี้จากการชวนของเพื่อนที่ฝึกงานด้วยกัน ตนเองไม่รู้รูปแบบรายการล่วงหน้าว่าจะต้องร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ทราบตอนที่เข้าไปนั่งในสตูดิโอแล้ว และทั้งหมดไม่มีการไกด์หรือเตี๊ยมเรื่องการลงคะแนนใดๆ เพราะแม้แต่ช่วงพักออกอากาศทางโทรทัศน์ ในไลฟ์ทางเฟซบุ๊กก็ยังมีผู้ดำเนินรายการที่สัมภาษณ์นักศึกษาในรายการอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับคำถามและการให้แสดงความเห็น นายเพิ่มพูน กล่าวว่า พิธีกรตั้งคำถามได้ตรงจุดดี และไม่รู้สึกกดดันที่ตอนยกสัญลักษณ์ขึ้นตอบจะมีกล้องถ่ายภาพแพนให้เห็น ทุกคำตอบมาจากความเห็นและความตั้งใจในการตอบจริงๆ

“ทุกอย่างในรายการ ทุกผลโหวต คือความจริงที่พวกผมเเละพวกเด็กรุ่นใหม่ทุกคนคิดครับ เเละไม่มีใครรู้กันมาก่อนหรอกครับว่าคำถามจะถามอะไร”

ส่วนข่าวการที่พิธีกรร่วมถูกสั่งให้ยุติบทบาทหลังรายการ รู้สึกว่าน่าเสียดายที่ผู้ดำเนินรายการดีๆ ต้องมาเจอผลกระทบเเบบนี้

ถามต่อถึงการเป็น Firstvoter ว่ามองการเมืองไทยเป็นอย่างไร และอยากได้นายกรัฐมนตรีแบบไหน นายเพิ่มพูน กล่าวว่า อยากเห็นการเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ดี ไม่ใช่หยุดนิ่งเหมือนเดิม และคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทุกคนอยากได้นายกรัฐมนตรีที่ดี แต่ทุกคนล้วนต้องมีข้อเสียบ้างอยู่แล้ว สำคัญคือต้องมีความสามารถในการบริหารประเทศได้

 

ทั้งนี้ในทวิตเตอร์ ยังมีผู้ที่ระบุว่าเป็น นิสิต-นักศึกษา ที่เข้าร่วมดีเบตดังกล่าวมาแสดงความเห็นเช่นเดียวกันว่า ผลโหวตในรายการมาจากความเห็นจริงๆ ไม่มีการชักนำหรือบังคับ

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า