นายกฯ ถึงกาญจนบุรี ฟังปัญหาเรื่องแพรุกล้ำลำน้ำ

นายกฯ นำคณะลงพื้นที่กาญจนบุรี รับฟังปัญหาเรื่องแพรุกล้ำลำน้ำ ย้ำการสร้างของใหม่ไม่จำเป็นต้องรื้อของเก่าทิ้งหมด อ้อนชาวบ้านอย่าทิ้งกัน

วันที่ 7 พ.ย. 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางจากพล.ม.2 รอ. ไปยังสนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี  โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีเดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และถวายสักการะบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 3 จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่าย และวิถีชุมชน โดยมีนายนวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ มอบหนังสือเรื่องเขียนแผ่นดิน งานกวีนิพนธ์ เฉลิมพระเกียรติในรูปแบบใหม่ ซึ่งได้รวบรวมบทกวีเกี่ยวกับธรรมชาติในแต่ละจังหวัดของประเทศไทย

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังโรงงานกระดาษไทย ซึ่งเป็นโรงงานกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ใช้ผลิตกระดาษและธนบัตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญเพราะจะมีการพบปะกับข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และเมื่อเสร็จภารกิจในจุดนี้ นายกรัฐมนตรีจะไปนั่งรถรางเยี่ยมชมชุมชนถนนปากแพรก พร้อมทั้ง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หอประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จากนั้นจะได้ลงเรือเพื่อสำรวจและรับฟังปัญหาเรื่องแพรุกล้ำลำน้ำสองฝั่งแม่น้ำของจังหวัดกาญจนบุรีรวมปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับแพ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่มาพบกันวันนี้ หลายอย่างต้องแก้ไขและทำต่อ ซึ่งรัฐบาลต้องสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียน ต้องหาให้เจอว่าชอบอะไร สัญญาว่าจะทำให้เต็มที่ และสิ่งที่วางไว้คือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เปลี่ยนแปลงได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นแต่ถ้าเรารู้ล่วงหน้า เราก็จะรู้อนาคต แต่ถ้าไม่รู้ล่วงหน้าอย่างที่ผ่านมาก็จะมีปัญหาไม่เกิดความต่อเนื่อง วันนี้มารับฟังปัญหาและอุปสรรคและโครงการต่างๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับเรื่องมาทางจากท้องถิ่นและส่วนภูมิภาค อะไรที่รัฐบาลทำได้ก็จะทำให้ แต่ขอให้เข้าใจว่าการพูดของรัฐบาลต้องพูดอยู่ในกรอบของกฎหมายและระเบียบต่างๆ ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบไม่ละเมิดสิทธิ์ซึ่งกันและกันก็จะไปได้หมด และขอให้กำลังใจท้องถิ่น ภูมิภาค เราจะต้องทำให้ศักยภาพของเมืองกาญจนบุรีเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 30 ของจีดีพี ทั้งนี้ขออย่าทิ้งคนรุ่นเก่า ซึ่งระหว่างพูดนายกฯได้ชี้ไปที่ตนเองพร้อมกล่าวว่า เนี้ยคนรุ่นเก่าผู้สูงวัย และชี้กลับไปที่นักเรียน นี่นักเรียนรุ่นใหม่

สำหรับภารกิจช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเปิดโครงการ Green Army Green Farmer เพื่อประเทศชาติและประชาชน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือด้านเกษตรและอาหารปลอดภัย โดยใช้พื้นที่ทหารเป็นฐานการผลิต เพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ รวมถึงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์และเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อยกระดับสุขภาพ คุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน และในจุดนี้นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับประชาชนในพื้นที่เช่นเดียวกัน