นายกฯ สั่งคุมเข้มโรงงาน เตือนหากปล่อยควันพิษเกินกำหนดสั่งปิดทันที

พล.อ.ประยุทธ์ ขอประชาชนหาหน้ากากป้องฝุ่นให้ตัวเองก่อน พร้อมกำชับทุกหน่วยงานช่วยแก้ปัญหาสภาพอากาศ เตือนโรงงานปล่อยควันพิษหากตรวจพบเกินกำหนดสั่งปิดทันที 

วันที่ 15 ม.ค.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่นละอองจำนวนมากในพื้นที่ กทม.ว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เกิดจากปัญหาการจราจร การเผาไร่นา และโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยควัน ได้กำชับไปแล้วทั้งเรื่องจราจร ขนส่ง รถเมล์ รถบรรทุก และโรงงานต่างๆ กระทรวงอุตสาหกรรมต้องไปตรวจสอบ ควบคู่การฉีดน้ำทำให้ฝุ่นตกลงมาข้างล่างและไม่ลอยขึ้นไปใหม่

นายกฯ บอกว่า เวลานี้ปัญหาพันกันหมดทั้งรถติด โรงงาน ซึ่งในกทม.การก่อสร้างมีฝุ่นปกติ เพียงแต่ช่วงนี้เกิดกดอากาศต่ำส่งผลฝุ่นละอองตกต่ำลงมา ขณะที่ช่วงนี้ปลายฝนต้นหนาวมีการเผาไร่เผานา รัฐบาลพยายามแก้ไขกวดขัน เช่น นำฟางมาอัดแท่งเป็นเชื้อเพลิง ได้กำชับเร่งจัดหาหน้ากากโดยเฉพาะหน้ากากชนิดพิเศษช่วยเหลือประชาชนแล้ว ใครไม่มีขอให้ใช้หน้ากากธรรมดาไปก่อน หากใครมีกำลังซื้อก็ขอให้ช่วยกัน หากให้ช่วยทุกคนจะไหวหรือไม่

ทั้งนี้ รัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น โดยคนที่มีกำลังทรัพย์ก็ควรซื้อมาสวมใส่เพื่อป้องกันตนเอง เพราะหากรอให้รัฐบาลนำหน้ากากมาแจกจ่ายให้ทุกคนคงไม่ไหว เพราะมีงบประมาณไม่เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้ทุกคนได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบ จะปล่อยให้เป็นหน้าที่รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ หรือหากจะให้ใช้ยาแรงอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะปัญหาของประเทศไทย คือ คนไม่ค่อยดำเนินการตามกฎหมาย แต่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

เมื่อถามว่าในต่างประเทศที่เป็นประเทศอุตสาหกรรม กำหนดค่าฝุ่นละอองที่มีมาตรฐานอยู่ที่ 25 มคก./ลบ.แต่ไทยกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.นายกฯ กล่าวว่า ต้องควบคุม มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกำหนดมาตรการและด้านกฎหมาย แต่บ้านเราคือส่ิงที่เป็นกฎหมายไม่ค่อยปฏิบัติ เขากำหนดอะไรมาก็ตามมีปัญหหมด ไม่รับผิดชอบ แต่ตนสั่งไปแล้ว ถ้าผิดกฎหมายผิดกติกาต้องปิดปรับปรุงแก้ไข โดยต้องเอาจริงเอาจัง ทุกคนอยากให้ใช้ยาแรงแต่เมื่อใช้ยาแรงก็มีปัญหาทันที ฐานะรัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่โยนให้คนหนึ่งคนใดรับผิดชอบหมดไม่ได้ อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ยังเอาเปรียบกันอยู่เหมือนเดิม ปล่อยฝุ่นละอองกระจายไปทั่วเหมือนเดิม ต่อไปโรงงานไหนไม่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมจะปิดให้หมด