นายกฯ เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานความห่วงใยมายังปชช.ภาคใต้

นายกฯ เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ทรงติดตามสถานการณ์พายุปาบึกมาโดยตลอด และทรงพระราชทานความห่วงใยมายังประชาชนทุกคน

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ม.ค. ระหว่างการประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์พายุปาบึก ที่จะเข้าประเทศไทยในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ยึดแนวทางหรือพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงรับสั่งไว้เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2560 ทรงรับสั่งไว้แล้วว่า การทำงานใดๆ ก็ตาม จะต้องจัดทำแผนงาน แผนเผชิญเหตุต่างๆ ไว้ให้ครบถ้วน เมื่อถึงเวลาแล้วเราจะสามารถแก้ปัญหาได้โดยทันที ทุกสถานการณ์ในสมมติฐานที่มีอยู่ แผนหลักแผนรองต้องทำให้ครบ และขณะนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ก็ได้พระราชทานความห่วงใยมายังประชาชนทุกคน

“สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนจะต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ชีวิต ทรัพย์สินก็ดูแลให้ได้มากที่สุด”

นายกฯ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชน ข้าราชการทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคส่วนท้องถิ่นทุกคนขอให้ปลอดภัย ขอให้ทุกคนดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ขอให้เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราเคารพนับถือให้ช่วยกันปกป้องคุ้มครองให้ประเทศชาติ ประชาชนของเราปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งไว้แล้วว่า เราไม่สามารถจะบังคับธรรมชาติได้แต่เราต้องรู้ว่า เราจะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้เมื่อสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีห่วงใยไปถึงผู้ว่าฯ ประชาชนในพื้นภาคใต้ และขอฝากถึงประชาชนทุกคนส่งกำลังให้ประชาชนในภาคใต้ให้ผ่านพ้นภัยอันตรายต่างๆ เหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

ปลอดภัยไว้ก่อน..มณฑลทหารบกที่ 41 นำรถบรรทุก เร่งอพยพประชาชนจากพื้นที่ ม.1 ต.ปากนครฯ ไปยัง ศูนย์อพยพโรงเรียนท่านคร แล้ว 500 คน และยังมีประชาชนที่ต้องการอยู่ที่เดิมก่อนอีก20 ครัวเรือน pic.twitter.com/sR9XinfQA9

— armypr_news (@armypr_news) 3 January 2019

ภาพบางส่วน Thaigov. / @armypr_news