นายจ้างแจงไล่หนุ่มพลเมืองดีออก เพราะทำผิดไม่ใช่เพราะไปช่วยเด็ก

นายจ้างชี้แจงไล่หนุ่มช่วยเด็กหญิงรอดจากถูกตาพยายามข่มขืนออกจากงาน ไม่ใช่เพราะไปเป็นพลเมืองดี แต่นำรถคันใหม่ของนายจ้างไปใช้ส่วนตัวขับไปบ้านญาติข้ามจังหวัดหายไป 6 ชั่วโมง วอนสังคมฟังเหตุผลก่อนรุมประณาม

กรณี นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี เข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 15 ปีที่กำลังจะถูกตาวัย 68 ปี ข่มขืนในป่าในพื้นที่หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ต่อมาถูกนายจ้างไล่ออกจากงานที่เป็นพนักงานส่งน้ำดื่ม โดยนายทิพกร สงสัยว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการที่ตำรวจเรียกไปเป็นพยาน ทำให้ส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทันรวมทั้งกรณีเอารถคันใหม่ไปส่งน้ำแต่กลับมาล่าช้าทำให้เถ้าแก่ไม่พอใจนั้น

วันเกิดเหตุ

ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโรงงานผลิตน้ำที่นายทิพกร ทำงานอยู่ โดยได้ขอชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์ไม่พร้อมจะเผยตัวเพราะขณะนี้กลายเป็นจำเลยสังคม โดยเถ้าแก่ผู้ชายกล่าวว่า สาเหตุที่ให้ นายทิพกร ออกไม่ได้มาจากการไปเป็นพยานในคดีนี้จนทำให้เสียงานส่งน้ำไม่ทัน ซึ่งตนและภรรยายังชื่นชมนายทิพกรด้วยซ้ำ แต่สาเหตุจริงมาจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค. นายทิพกร ขอรถคันใหม่ไปส่งน้ำให้ลูกค้าที่ค้างอยู่อีก 50 ถังเพราะส่งให้ไม่ทันในวันเกิดเหตุ โดยอ้างว่าคันเก่าที่ขับส่งน้ำเป็นประจำกระจกแตกขับไม่ได้ ซึ่งตนก็ให้ไป

ก่อนไปส่งน้ำนายทิพกรได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.หาดใหญ่เสร็จประมาณ 14.00 น. และไปส่งน้ำต่อซึ่งเวลาที่ใช้ในการส่งน้ำจริงๆราว 1 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่กลับนำรถกลับมาส่งที่โรงน้ำตอน 22.00 น.ภรรยาของตนจึงโมโหมากเพราะในวันนั้นจำเป็นต้องใช้รถไปย้ายหอให้กับลูกสาวและเพื่อนที่ อ.เมืองสงขลาในช่วงเย็น จึงทำอะไรไม่ได้เลยเพราะไม่มีรถ จึงให้นายทิพกรออก

เถ้าแก่ชาย กล่าวด้วยว่า จริงๆ แล้วได้วางแผนที่จะซื้อรถและเซ้งให้นายทิพกรมีกิจการส่งน้ำเป็นของตัวเองด้วยซ้ำซึ่งได้คุยกันไว้แล้วเพื่อสร้างตัวเอง และส่วนตัวตนก็ไม่ได้คิดจะไล่ แต่วันนี้ภรรยาโมโหมากที่นำรถไปใช้ส่วนตัวซึ่งทราบว่าขับไปบ้านญาติที่ จ.พัทลุง จึงกลับมาช้า ถ้าวันนี้กลับมาถึงเร็วก็ไม่ถูกไล่ออก จึงขอความเห็นใจกับสังคมด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ นายทิพกร เป็นพลเมืองดีช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังจะถูกข่มขืนและต้องไปเป็นพยานแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ข่าว นายทิพกร พลเมืองดีถูกไล่ออกจากงาน ได้มีผู้ติดต่อยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือมาจากทั่วประเทศ รวมทั้งที่มารอพบที่ สภ.หาดใหญ่ ทั้งเสนองานให้ทำรวมทั้งบริจาคเงินมาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ รวมถึง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ได้มอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทและพร้อมที่จะหางานทำให้ที่ จ.นครศรีธรรมราช และบางธนาคารก็ติดต่อจะช่วยเหลือเช่นกัน