น้องสาวเจ้าอาวาส สั่งทำลายเจดีย์เก็บอัฐิ ลั่น “ไม่ขอโทษชาวบ้าน”

เหตุการณ์เจ้าอาวาสวัดเกาะพิกุลศรีโสภณ จ.นครนายก จ้างแบคโฮเข้าทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิบรรพบุรุษของชาวบ้าน ล่าสุดทีมข่าวเวิร์คพอยท์ลงพื้นที่ คุยกับน้องเจ้าอาวาสบอกว่า ไม่ขอโทษ

จากกรณีที่ข่าวเวิร์คพอยท์ได้รายงานไป เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 61 ที่วัดเกาะพิกุลศรีโสภณ ต.ศรีกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก มีชาวบ้านรวมตัวกันกว่า 50 คน เพื่อขับไล่เจ้าอาวาส หรือ พระสมพงษ์ หลังทราบว่า ได้จ้างรถแบคโฮมาทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิของบรรพบุรุษ แต่พระสมพงษ์ได้หลบหนีไป

ต่อมาวานนี้ (26 ก.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านนา จ.นครนายก พระสมพงศ์ หรือ อดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะพิกุลศรีโสภณ ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ เพื่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สุพล พรประเสริฐ รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านนา พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา “ทำให้เสียทรัพย์”

โดยพระสมพงศ์ บอกว่า ขอยอมรับผิดกับการกระทำทั้งหมด และฝากขอโทษญาติโยม ทางตนเองก็เสียใจ เพราะเจดีย์ที่ถูกทำลายลง ก็มีอัฐิแม่อยู่ด้วยเช่นกัน และจะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้

พระสมพงศ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะพิกุลศรีโสภณ จ.นครนายก

หลังจากเกิดเหตุ ตนได้หลบหนีออกจากวัดไป โดยมีเพียงจีวรผืนเดียวติดตัวออกมา เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านมาทำร้าย ส่วนเรื่องที่มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งความว่า ถูกยิงปืนบริเวณหน้าบ้าน หลังจากเกิดเหตุเพียงวันเดียวนั้น พระสมพงศ์ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้

ขณะที่พระสมพงศ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า จะไปจำวัดอยู่ที่ไหน ส่วนกรณีเรื่องสึกจากการเป็นพระ จะขอปฏิเสธ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดต่อวินัยสงฆ์ จึงยังขอบวชต่อไป

คืบหน้าล่าสุดวันนี้ (27 ก.ย.) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ลงพื้นที่ไปคุยกับชาวบ้าน นางสังเวียน พุ่มสาขา เผยว่า หลังจากที่พระสมพงศ์ เข้ามอบตัว ชาวบ้านทราบข่าวก็วิพากษ์วิจารณ์ โดยตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมาชาวบ้านยืนยันจะไม่ยอมให้พระสมพงศ์กลับมาจำวัดนี้อีก เพราะหมดศรัทธา

ส่วนเรื่องที่พระสมพงศ์บอกว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้ ตนมองว่า การชดใช้ด้วยเงินคงไม่ได้ และชาวบ้านก็ไม่ได้อยากได้เงิน แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นมาแล้ว ก็แก้ไขอะไรไม่ได้

https://www.youtube.com/watch?v=LQ9EdubDLgg

นางสังเวียนกล่าวว่า ตอนนี้อารมณ์ของตนเริ่มเย็นลง ก็ยอมให้อภัย ส่วนพระสมพงศ์จะสึกหรือไม่นั้น ตนไม่มีความเห็นอะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

คำกล่าวอ้างจากพระสมพงศ์ว่า เป็นการสื่อสารกับคนขับรถแบคโฮผิดพลาด เรื่องนี้ตนได้คุยกับคนขับมาแล้ว คนขับยืนยันว่า พระสมพงศ์เป็นคนสั่งให้รื้อเจดีย์เก็บอัฐิ

ขณะเดียวกัน นางบุญถิน ม่วงแพร ก็ยืนยันว่า ไม่มีใครให้พระสมพงศ์กลับมาจำวัดแน่นอน และยังกล่าวว่า จะชดใช้เป็นเงินได้อย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาชดใช้ให้ชาวบ้าน

เรื่องการบูรณะเจดีย์เก็บอัฐิ ชาวบ้านลงความเห็นกันว่า จะสร้างเจดีย์ใหญ่ไว้ใส่อัฐิของบรรพบุรุษ รวมกันในเจดีย์เดียว เพราะบางเจดีย์อัฐิก็กระจัดกระจายหายไป หรืออัฐิก็รวมปะปนกันไปหมดแล้ว โดยอาจจะต้องรอให้ครบ 100 วันไปก่อน จึงจะจัดสร้างเจดีย์ใหม่ได้

ทั้งนี้ ตนอยากจะให้พระสมพงศ์สึกไปเลย เพราะไม่มีความเมตตา จะให้ไปกราบไหว้ก็คงทำไม่ลง เพราะตนคลุกคลีอยู่กับวัดแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก รับไม่ได้ต่อพฤติกรรมดังกล่าว

บุญถิน ม่วงแพร ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านญาติของพระสมพงศ์ ซึ่งอยู่ในละแวกดังกล่าว พบกับนางบุญทิ้ง มิตรนิยม อายุ 67 ปี น้องสาวของพระสมพงศ์ ก็ได้กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากความไม่ตั้งใจของพระสมพงศ์ “คนเราทำผิดกันได้” แต่ชาวบ้านเองก็อารมณ์ร้อนเกินไป จะเข้าไปทำร้ายพระ

ทางพระสมพงศ์เองก็บอกแล้วว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะชดใช้อย่างไร ในเมื่อเป็นอัฐิบรรพบุรุษที่มีคุณค่าทางจิตใจ เรื่องนี้นางบุญทิ้งกล่าวว่า ชาวบ้านก็พูดไปอย่างนั้น ก็คงแล้วแต่ทางทนาย เพราะเป็นแค่คดีทำให้เสียทรัพย์ ไม่ใช่คดีร้ายแรงอะไร

บุญทิ้ง มิตรนิยม น้องสาวพระสมพงศ์

ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านไม่ยอมให้กลับมาจำวัด ในฐานะน้องสาวและญาติก็คงไม่ให้กลับมาแล้วเช่นกัน คงไม่มายุ่งกับวัดนี้แล้ว ใครอยากจะทำอะไร อย่างไรก็แล้วแต่ เพราะรำคาญและเบื่อ

ประเด็นที่ชาวบ้านจะให้สึกนั้น อยากถามว่า มีสิทธิ์อะไรที่จะให้พระพี่ชายสึก เป็นเรื่องของทางพระผู้ใหญ่เห็นว่าอย่างไร และเมื่อถามว่า อยากจะขอโทษแทนพระพี่ชายหรือไม่ นางบุญทิ้งยืนยันว่า คงไม่ขอโทษ เพราะอัฐิพ่อแม่ของตนก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วจะให้ทำอย่างไร

ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า พระสมพงศ์จะไปจำวัดไหน ส่วนตัวก็เป็นห่วงว่า จะอยู่อย่างไร เพราะมีโรคประจำตัวด้วย