“น้องโอ๊ะ” Super 10 สุดยอดเด็กเก่ง ยอดกตัญญู โชว์ยิงหนังสติ๊กพิชิตรถอีแต๊กเพื่อปู่

ด.ช.ศักดิ์ชัย สระศรี หรือ น้องโอ๊ะ อายุ 12 ปี ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองโพ จ.อุทัยธานี ซึ่งได้เดินทางมากับ “คุณปู่เสน่ห์” วัย 60 ปี เพื่อมาแสดงความสามารถ “ยิงหนังสติ๊ก” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่หาโอกาสดูความแม่นยำเหล่านี้ได้ยากยิ่ง หากไม่มีเวทีให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพ โดยความฝันที่น้องโอ๊ะอยากได้กลับไปคือ “รถอีแต๊ก” เพื่อให้ปู่ได้นำไปใช้ประกอบอาชีพนั่นเอง ด้วยเหตุผลที่ว่า “สาลี่มันผุครับ และตัวเครื่องมันก็จะพังครับ”

คุณปู่เสน่ห์บอกว่า ตอนที่น้องโอ๊ะคลอดมาใหม่ๆ ก็อยู่กับพ่อแม่เขาก่อน เมื่อพ่อแม่ไปทำงานจึงนำน้องโอ๊ะมาฝากให้คุณปู่เลี้ยง ซึ่งคุณปู่ก็เลี้ยงดูมาตลอด โดยคุณปู่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และปลูกข้าว ซึ่งก็มีกรรมวิธีในการทำงานทั้งฉีดยา หว่านปุ๋ย น้องโอ๊ะก็จะคอยช่วยปู่ตลอด

“เขาอยากจะช่วยอย่างอื่นจะตาย แต่ก็ยังทำไม่ได้ เรายังไม่อยากให้จับ” คุณปู่กล่าว

คุณปู่ยังบอกอีกด้วยว่า น้องโอ๊ะเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ให้ไปโรงเรียนก็ไป ช่วยเหลืองานทุกอย่าง ทั้งจับปลา หาอาหารมาเลี้ยงคนในครอบครัว เรียกได้ว่าหากช่วยแบ่งเบาภาระใดๆ ได้ น้องโอ๊ะไม่เคยเกี่ยง แม้แต่การได้เงินไปโรงเรียน ซึ่งคุณปู่ให้เงินไปวันละ 20 บาท น้องโอ๊ะจะใช้เพียง 5 บาท เท่านั้น เหลือ 15 บาท แบ่ง 5 บาทฝากครู ส่วนอีก 10 บาท นำมาหยอดกระปุกออมสินที่คุณปู่ทำให้ น้องโอ๊ะบอกว่า ที่ต้องออมเงินไว้ก็เพื่อ “วันข้างหน้า” นั่นเอง ซึ่งคำตอบของพ่อหนุ่มน้อย ทำเอาทั้งคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่งถึงกับน้ำตาซึม

“ปู่สอนพวกหากินครับ ไปหาปลา หว่านแห ไปใส่ข้อง บางทีก็ไปปักเบ็ด ยิงนก เวลาได้เยอะผมจะเอาไปขาย ไปขายสัก 2-3 กิโลกรัม แล้วก็เอามาทำอาหาร ปู่ไม่เคยบ่น เวลาเขาทำงาน รายได้ 600-700 บาท บางทีก็ไม่มี ผมเห็นปู่เขาเหนื่อยเหมือนกัน เขาอายุมากแล้ว ตั้ง 60 แล้วครับ” น้องโอ๊ะเล่า

น้องโอ๊ะบอกว่า การมาแสดงความสามารถครั้งนี้เขามีคุณปู่เป็นแรงบันดาลใจ ด้วยความรักปู่ ไม่อยากให้ปู่เหนื่อย วันนี้น้องโอ๊ะจึงมาแสดงความสามารถในการ “ยิงหนังสติ๊ก” ซึ่งด่านแรกที่เจอก็โหดเสียแล้ว โดยมีเป้า 3 เป้า เป็นลูกโป่งใส่น้ำ มีขนาดใหญ่เล็กไม่เท่ากัน น้องโอ๊ะจะแสดงความสามารถด้วยการใช้หนังสติ๊กยิง ความยากของภารกิจนี้คือ ลมแอร์ในห้องส่งทำให้ลูกโป่งแกว่งไปแกว่งมาเล็กน้อย เป้าไม่อยู่นิ่ง…

ท่ามกลางความลุ้นระทึกของคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่ง และแล้วน้องโอ๊ะก็สามารถเล็งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งลูกแรก ลูกกลาง และแม้แต่ลูกสุดท้ายที่มีขนาดเล็กประมาณลูกปิงปองเท่านั้น เรียกทั้งเสียงกรี๊ด เสียงว้าว อย่างน่าทึ่ง อึ้ง ตะลึง ได้ทั้งสตูฯ เลยทีเดียว

แต่ยังไม่พอ “พี่ซุป” พิธีกรของรายการบอกว่า “โจทย์นี้ว่ายากแล้ว โจทย์ต่อไปว้าวกว่านี้” นั่นคือ ต้องยิงหนังสติ๊กให้เข้าปากขวด และแน่นอน ท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกคนในห้องส่ง เสียงลูกหนังสติ๊กถูกยิงเข้าขวดดังปั้งก็ทำลายความเงียบลง เพราะทั้งคณะกรรมการและผู้ชมในห้องส่งต่างส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ ถึงขั้นที่ “เสนาหอย” หนึ่งในคณะกรรมการถึงกับเอ่ยว่า “มหัศจรรย์”

ทว่าความโหดหินยังไม่จบ เมื่อด่านต่อไปนั้น สิ่งที่น้องโอ๊ะต้องยิงให้โดนนั้นมีขนาดเล็กเพียง 1 ใน 5 ของปากขวดเท่านั้น นั่นคือน้องโอ๊ะต้องยิงให้โดนไส้เทียนเพื่อดับเทียน หรือยิงให้โดนเปลวเทียนแล้วแรงพอที่จะดับเทียน แต่ก่อนที่จะตัดสินชะตาในด่านนี้ น้องโอ๊ะบอกว่า “ผมจะเอารถสาลี่ให้ปู่ให้ได้ครับ ผมจะสู้ครับ”

ท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกคนในห้องส่งอีกครั้ง ที่ต่างเอาใจช่วยน้องโอ๊ะ ซึ่งปรากฏว่ายิงโดนเปลวเทียน แต่ไฟไม่ดับ และเมื่อยิงอีกครั้ง เสียงโห่ร้อง ปรบมือก็ดังกึกก้องห้องส่ง เมื่อน้องโอ๊ะสามารถยิงหนังสติ๊กดับเทียนได้สำเร็จ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการแสดงความสามารถที่ดึงเอาจิตใจของทุกคนในห้องส่ง ส่งใจให้น้องโอ๊ะเป็นหนึ่งเดียว พอน้องโอ๊ะเล็งหนังสติ๊กยิงไส้เทียนดับเท่านั้น ทุกคนต่างลุกขึ้นปรบมือ ส่งเสียงดีใจเหมือนได้รางวัลเอง

นอกจากนี้ พี่ซุปยังถามน้องโอ๊ะด้วยว่า อยากได้ของพิเศษไหม ถ้าอยากได้ก็มีโจทย์พิเศษให้พิชิตอีก น้องโอ๊ะเลยบอกว่าอยากได้เบ็ดตกปลา เป็นเบ็ดฝรั่ง นั่นเพราะในชีวิตประจำวันน้องโอ๊ะมีหน้าที่ช่วยปู่หาอาหาร และเหตุผลที่ต้องเป็นเบ็ดฝรั่งก็เพราะจะเอาไว้ใช้ตอนน้ำท่วมนั่นเอง เพราะเบ็ดฝรั่งสามารถปักและโยนไปไกลๆ เพื่อหาอาหารมาให้ครอบครัวได้

แต่ภารกิจพิเศษนี้ พี่ซุปของเราบอกว่า น้องโอ๊ะกับปู่ต้องช่วยกันทำ โดยภารกิจพิเศษครั้งนี้คือต้องดับเทียนให้ครบ 3 เล่ม โดยน้องโอ๊ะกับปู่มีโอกาสยิงหนังสติ๊กได้เพียงคนละ 1 ครั้งเท่านั้น น้องโอ๊ะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และท่ามกลางความลุ้นของทุกคน น้องโอ๊ะก็สามารถดับเทียนได้ถึง 2 เล่ม เหลืออีกเพียง 1 เล่ม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณปู่ที่ต้องยิงหนังสติ๊กดับเทียนให้ได้…แล้วคุณปู่ก็สามารถดับเทียนได้สำเร็จ

แน่นอนว่าเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นทั้งห้องส่ง สีหน้าของน้องโอ๊ะแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้ง ครูเงาะถึงขั้นบอกว่า “The Master”

และด้วยความสามารถบวกความเป็นเด็กดี ความกตัญญูที่น้องโอ๊ะมีต่อคุณปู่ ผู้ใหญ่ใจดีจึงเล็งเห็น วันนี้น้องโอ๊ะจึงได้รับทั้ง “รถสาลี่ ไม้เบ็ด และเงินตั้งต้นเป็นทุนอาชีพให้คุณปู่อีก 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 45,000 บาท”

ก่อนจากกัน “ครูเงาะ” ถามว่าโตขึ้นน้องโอ๊ะอยากเป็นอะไร น้องโอ๊ะบอกว่าอยากเป็น “ทหาร” ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ ครูเงาะ เสนาหอย และพี่ตั๊ก บริบูรณ์ ก็ได้ให้กำลังใจแก่เด็กน้อยผู้เปี่ยมด้วยความสามารถและความกตัญญูคนนี้ โดยเสนาหอยบอกว่า อยากเห็นน้องโอ๊ะเติบโตขึ้นเป็นทหารไทย ที่ปกป้องคนไทยจากข้าศึกศัตรู เพราะเรามีทหารที่ยิงแม่นมากอย่างน้องโอ๊ะนั่นเอง

นอกจากนี้ “พี่ซุป” ยังบอกด้วยว่า เด็กหลายคนมีความสามารถ แต่ไม่มีเวทีให้เขาแสดงความสามารถ ยิ่งเป็นความสามารถที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบนี้ เราไม่ค่อยได้เห็น เพราะไม่ค่อยมีเวทีให้แสดง วันนี้เราภูมิใจมากที่ได้เป็นเวทีให้น้องโอ๊ะได้แสดงศักยภาพของเขา ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณปู่ เป็นภูมิปัญญาที่น่าชมเชยมากๆ

สำหรับเทปนี้ ไม่ใช่เพียงน้องโอ๊ะเอาชนะเกมภารกิจได้เท่านั้น แต่น้องโอ๊ะยังกวาดเอาหัวใจของทั้งคณะกรรมการและทุกคนในห้องส่งไปได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า มีผู้ชมจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกยินดีกับการแสดงความสามารถครั้งนี้ของเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีความกตัญญูเป็นที่ตั้งเช่นกัน

“รถมีความหมายกับพวกผมมาก เพราะไม่มีตัวนี้ ผมก็ไปหารับจ้างเขาไม่ค่อยได้ ภูมิใจกับหลานที่หลานไปทำมาได้ เขายังมีความมานะ เขาชนะ ไม่ชนะอะไร เขาชนะใจกรรมการ กรรมการเขาให้ผ่านก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ หลานผม” คุณปู่กล่าวทิ้งท้าย