SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ- จากสถานการณ์น้ำท่วม หลายพื้นที่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนเกิดภาวะเครียด และเริ่มป่วยเป็นโรคผิวหนัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ 25 ตค. 60 จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ยืดเยื้อกว่าเดือน ทำประชาชนบางพื้นที่เริ่มป่วยเป็นโรคผิวหนัง ขณะที่บางพื้นที่ น้ำท่วมถึงระดับชั้น 2 ของตัวบ้านแล้ว

จ.เชียงใหม่ แม่น้ำริมเอ่อท่วม อ.แม่ริม ปชช.หลายร้อยคนเดือดร้อน

เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันพัฒนาที่ 3 เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำท่วม หลังจากเกิดฝนตกหนัก จนทำให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำแม่ริม จนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่บ้านเหมืองผ่า บ้านท้องฝาย และบ้านหัวดง ต.ริมเหนือ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบรวมกว่า 60 หลัง ประชาชนเดือดร้อน  260 คน

นอกนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่เข้าเสริมกระสอบทราย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเพิ่มเติม พร้อมเข้าตัดต้นไม้ที่โค่นล้มกวางทางน้ำและกำจัดและเก็บ ขยะ เศษไม้ เพื่อเปิดทางระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำปิงโดยเร็วที่สุด

วินาทีชีวิตของช้างตัวหนึ่งถูกน้ำป่าซัดไหลมาตามล้ำน้ำแม่ตะมาน ในพื้นที่ ต.แม่ตะมาน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยช้างตัวดังกล่าวลอยคออยู่ในน้ำที่ไหลเชี่ยวกราดจนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างใจหายใจคว่ำ ขณะที่ควานช้างได้ร้องตะโกนเรียกให้ช้างขึ้นมาจากน้ำ และพยายามหาทางช่วยเหลือช้างให้ขึ้นมาจากน้ำ เพราะเกรงว่าช้างจะถูกน้ำป่าซัดจนได้รับอันตราย

อย่างไรก็ตามหลังช้างดังกล่าวลอยคอในกระแสน้ำโดยถูกซัดไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร ช้างตัวนี้ก็สามารถขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย

เบื้องต้นจากการตรวจสอบทราบว่าช้างตัวนี้มีชื่อว่า พังหมู เป็นช้างเพศเมียอายุ 53 ปี เป็นช้างเลี้ยงของปางช้างแอลลี่ ที่ตั้งอยู่ใน ต.แม่ตะมาน อ.แม่แตง

จ.กาฬสินธุ์ น้ำท่วมนาข้าว ปชช.เครียด ป่วยเป็นโรคผิวหนัง

ที่พนังกั้นแม่น้ำชี บ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กองพลทหารม้าที่ 3 ร่วมกับฝ่ายปกครองและตำรวจ นำแพทย์ทหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสุขภาพประชาชนบ้านแจ้งจม ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ทั้งนี้พื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นนาข้าวทั้งหมด และจากผลการตรวจพบว่า ประชาชนประสบปัญหาภาวะความเครียดและป่วยเป็นโรคผิวหนัง พร้อมทั้งนำกำลังทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยและกองพลทหารม้าที่ 3 ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น เร่งบรรจุกระสอบทรายนำไปเสริมพนังกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

สำหรับพื้นที่น้ำท่วม ที่ จ.กาฬสินธุ์ ในเขตชลประทานลำปาว เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในพื้นที่ติดกับลำน้ำชียังน่าเป็นห่วง ถึงแม้จะไม่มีฝนตกลงมา แต่ก็ต้องรองรับสถานการณ์จากน้ำที่ระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์ซึ่งคาดว่าหากฝนไม่ตก สถานการณ์อาจจะดีขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาว ล่าสุดปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,865 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 94% ซึ่งยังคงปิดประตูการระบายน้ำ เพื่อจัดการจราจรน้ำในช่วงนี้

จ.อ่างทอง ปชช.เร่งวางกระสอบทราย หลังน้ำเจ้าพระยาหนุนสูง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง จ.อ่างทอง ยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากที่ทางเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทยอยระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนเพิ่ม 100 ลบ.ม./รทก. ซึ่งทยอยระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังการระบายน้ำเพิ่ม ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วง จ.อ่างทอง เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ 2-7 ซม. ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า และสถานที่ราชการต่างหวั่นวิตก เกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในพื้นที่ ซึ่งในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา ใน จ.อ่างทองได้มีฝนตกลงมาหนักอยู่เกือบทุกวัน

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้พระครูวิบูล พัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดตาลเจ็ดช่อ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ตลาดกรวด อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หวั่นเกรงว่าน้ำจะเข้าท่วมวัดอย่างเช่นปี 2554 ที่ผ่านมา จึงได้นำพระ เณร และเด็กชาวเขาที่มาอาศัยอยู่ที่วัดตาลเจ็ดช่อหลายสิบคน มาช่วยกันตักทรายกรอกใส่กระสอบแล้วนำมาวางเรียงขั้นเป็นคันกั้นน้ำริมถนน

จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมสูง บางพื้นที่น้ำขึ้นถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน

ทางชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า สำนักงานชลประทานที่ 12  เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยในช่วงเช้าวันที่ 25 ต.ค. ระบายน้ำท้ายเขื่อนที่ 2697 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นกว่า 10 ซม.

โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับนายวิรัตน์ เพ็ญสวัสดิ์ อายุ 49 ปี พิการป่วยเป็นโปลิโอ พักอาศัยบ้านเลขที่ 60 หมู่ 9 ต.ตะกู  อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพักอาศัยกับ นางเสริมสวย บำรุงเขต อายุ 43 ปี ภรรยา โดยถูกน้ำท่วมถึงชั้นสองแล้ว และต้องให้เพื่อนบ้านมายกพื้นให้สูงขึ้นอีก 1 ม.

ขณะนี้ที่สถานน้ำในคลองเมืองพระนครศรีอยุธยา ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ซม. เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่เทศกิจ จ.พระนครอยุธยา ออกวางกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าสู่ชุมชนวัดกุฎีทอง ซึ่งมีจำนวน 500 หลังคาเรือน ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้ป้องกันด้วยการวางกระสอบทรายพร้อมตั้งคันดินไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วม โดยคาดว่าจะมีระดับต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งเทศบาลจะดำเนินการเฝ้าระวังตลอดเวลา

จ.ปทุมธานี เร่งทำคันดินกั้นน้ำ หลังน้ำทะลักเข้าท่วมบ้าน โรงเรียน วัด

ชาวบ้านและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปทุมธานี ช่วยกันก่อกระสอบทรายป้องกันน้ำหลังจากที่น้ำได้ทะลักบริเวณใต้เขื่อนเข้าท่วมโรงเรียนวัดถั่วทองและวัดถั่วทอง ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

หลังจากที่น้ำได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนข้างเคียงวัดถั่วทอง ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปทุมธานี และประชาชนใกล้เคียงช่วยกันก่อกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำและนำเครื่องสูบน้ำมาสูงออก

ส่วนบริเวณเขื่อนได้นำรถแม็คโครมาขุดดินทำเป็นคันกั้นน้ำ รวมถึงนำกระสอบทรายมาถมบริเวณที่น้ำทะลักใต้เขื่อนหน้าวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากช่วงบ่ายของวันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกับเมื่อวาน แต่วันนี้น้ำได้ทะลักไหลเข้ามาทางใต้เขื่อนของวัดเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนและวัด รวมถึงบ้านเรือนข้างเคียง ในช่วงเย็นสามารถป้องกันน้ำที่ทะลักเข้ามาได้แล้ว

จ.นนทบุรี เร่งกู้น้ำเอ่อท่วมซุ้มวางดอกไม้จันทน์ วัดราษฎร์ประคองธรรม

ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายอำเภอบางใหญ่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและประชาชนจิตอาสา เร่งก่อกระสอบทรายวางเสริมแนวเขื่อนป้องกันน้ำภายในวัด พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่

สำหรับวัดราษฏร์ประคองธรรม เป็นสถานที่จัดซุ้มพิธีวางดอกไม้จันทน์ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำในคลองอ้อมและคลองบางกรวยที่อยู่ติดกับวัด เพิ่มสูงขึ้น จนเอ่อล้นเข้าท่วมภายในพื้นที่บริเวณสถานที่จัดงาน หลังจากวางแนวกระสอบทรายเสร็จแล้ว และสูบน้ำออกคาดว่าภายใน 2 ชม.จะกลับสู่สภาพปกติ

จ.สุราษฎร์ธานี น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด มีผู้เสียชีวิต 1 รายจากภาวะน้ำไหลหลาก

ฝนตกหนักกว่า 3 ชั่วโมง น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ไหลหลากกัดเซาะคอสะพานบ้านกอบแกลบขาด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้  และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายทองจันทร์ นาอุ่น ขณะขี่รถ จยย.พ่วงข้างเดินทางกลับและได้ถูกกระแสน้ำพัดรถตกในคลอง ร่างจมหายไปกับกระแสน้ำ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนของวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา และมาพบศพในเช้าของวันที่ 25 ต.ค. 60

หลังเกิดเหตุ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เร่งลงพื้นที่ระดมกำลังพร้อมเครื่องมือหนักเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมมอบเงิน 50,000 บาท ช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า