น้ำป่าทะลักท่วม ‘เชียงของ’ กระทบ 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนจมน้ำกว่า 500 หลัง

เชียงราย ฝนถล่มหนัก ทำน้ำป่าทะลักล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำ ไหลท่วม 17 หมู่บ้าน ใน 3 ตำบล พื้นที่ชายแดนเชียงของ บ้านเรือนชาวบ้านจมน้ำกว่า 500 หลังคาเรือน

วันที่ 23 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงรายแจ้งสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ว่า คืนที่ผ่านมาพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำช้าง ต.สถาน อ.เชียงของ มีปริมาณฝนมากถึง 159.8 มิลลิเมตร ทำให้อ่างเก็บน้ำที่มีความจุ 6.3 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำมากถึง 6.649 ล้าน ลบ.ม. จนเอ่อล้นขอบอ่างหรือสปิลเวย์เข้าท่วมบ้านเรือน ถนนและพื้นที่ทางการเกษตรในเขต ต.สถาน ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ เป็นบริเวณกว้าง

กระแสน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 7 หมู่ 11 และหมู่ 13 ต.สถาน, หมู่ 1 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 11 และหมู่ 13 ต.ศรีดอนชัย รวมถึงหมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 11 หมู่ 13 หมู่ 15 หมู่ 17 และหมู่ 22 ต.ห้วยซ้อ ทำให้ถนนสาย อ.พญาเม็งราย-อ.เชียงของ ถูกน้ำท่วมหลายจุด ระดับน้ำลึกตั้งแต่ 20-30 ซม. การสัญจรบางจุดเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องใช้ความระมัดระวัง

ส่วนตามบ้านเรือนโดยเฉพาะที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำต่างๆ ถูกน้ำล้นเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง เบื้องต้นมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 500 หลังคาเรือน ก่อนที่ระดับน้ำจะเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง แต่หลายพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ปภ.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต่างเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของ รวมถึงเข็นรถที่ติดหล่มหรือเครื่องดับตามจุดต่างๆ ด้วย

โดยพื้นที่ลุ่มน้ำและลำห้วยต่างๆ เกือบทุกตำบล มีน้ำเอ่อล้นหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอำเภอได้ประกาศเตือนภัยให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์ และเก็บข้าวของไปไว้บนพื้นที่สูงแล้ว พอเช้ามืดวันที่ 23 น้ำก็เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมตามพื้นที่ต่างๆ ลักษณะเป็นน้ำที่ระบายไม่ทัน ซึ่งทางอำเภอได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้าน และสำรวจความเสียหายต่อไป

ขณะเดียวกันพบว่าน้ำป่าทะลักลงแหล่งน้ำพื้นที่บ้านแม่แอบ หมู่ 11 และบ้านห้วยข่อยหล่อยหมู่ 12 ใน ต.บ้านแซว จนเอ่อล้นท่วมโรงเรียน บ้านเรือนชาวบ้าน ประมาณ 20 หลังคาเรือน โดยขณะนี้มวลน้ำได้ไหลไปทางหมู่บ้านป่าตึง หมู่ 5 ซึ่งทางอำเภอได้เข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านและแจ้งเตือนหมู่บ้านที่อยู่ท้ายน้ำอื่นๆ ให้เตรียมพร้อมรับมวลน้ำดังกล่าว