SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – โลกโซเชียลแชร์ขอความช่วยเหลือ บริจาคเลือดช่วยเด็กน้อยวัย 4 ขวบ เกิดเหตุอุบัติเหตุถูกรถ 10 ล้อเหยียบ ได้รับบาดเจ็บอาการโคม่าและขาดเลือดจำนวนมาก แม้แพทย์ระบุโอกาสรอดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 2 ม.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสสังคมที่พุ่งตรงให้ความช่วยเหลือครอบครัว เสมบุญหล่อ กรณีเด็กชายวัย 3 ขวบครึ่ง ถูกรถบรรทุกทับ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ซึ่งขณะนี้อาการยังไม่พ้นวิกฤต ขณะที่เจ้าของรถบรรทุก คู่กรณีแอบมาให้เงิน 15,000 บาท อ้างเยียวยา 3 ชีวิต แต่ถูกปฏิเสธไป

นายวันชัย เสมบุญหล่อ บิดา ด.ช.นิติกร เสมบุญหล่อ หรือน้องบีกัน อายุ 3 ขวบครึ่ง และด.ช. นิธิกร เสมบุญหล่อ หรือ น้องโบกัสอายุ 6 ขวบ ประสบอุบัติเหตุ รถบรรทุก 10 ล้อ ตัดหน้าขณะน้าสาว หรือ น.ส.มณธิชา สมสถาน อายุ 19 ปี ขับขี่รถจักยานยนต์ไปบ้านญาติ ทำให้ทั้ง 3 คน อาการสาหัส อาการล่าสุด น.ส มณธิชา สะโพกแตกร้าว ต้องใส่เฝือก 4-5 เดือน เดินไม่ได้ และอาจจะมีโอกาสพิการครึ่งท่อนล่าง ส่วนอาการน้องโบกัส ตับฉีก ต้องรอรักษาตัว 14 วัน มีอาการปวดหัวซึ่งต้องรอแพทย์วินิจฉัย ส่วนอาการน้องบีบีกันอายุ 4 ขวบ หนักสุด กระดูกก้นแตกละเอียด ขาหักทั้ง 2 ข้าง กะโหลกศีรษะด้านซ้ายยุบ ตาซ้ายถลน เส้นเลือดใหญ่ในช่องท้องฉีกขาด ขณะนี้ยังไม่พ้นวิกฤต แม้ว่าแพทย์ได้ผ่าตัดเพื่อรักษาการฉีกขาดเส้นเลือด แต่มีภาวะแทรกซ้อน มีโอกาสช็อกเสียชีวิต โดยแพทย์ประเมินมีโอกาสรอดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์

ส่วนกระแสสังคมที่ได้ระดมคนมาบริจาคเลือดนับพันคน และยอดเงินบริจาคเข้าทางบัญชี นายวันชัย เสมบุญหล่อ ธนาคารกสิกร สาขาพัทยา ขณะนี้มียอด 3,268,531.91 บาท ทางพ่อน้องบีบีกันได้ขอบคุณทุกความช่วยเหลือจากประชาชนที่ส่งผ่านเข้ามา ระบุว่า เงินบริจาคทั้งหมด เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เด็ก 3 คน โดยจะแจงเอกสาร บิลค่าใช้จ่ายผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งคืนนี้จะปิดรับการบริจาคก่อน เนื่องจากขณะนี้ มีค่ารักษารวม 3 คน ประมาณ 5 แสนบาท และกำลังเดินเรื่องขอย้าย น้องบีบีกันไปรักษาที่ รพ.เอกชนหรือที่ กทม. ในโรงพยาบาลที่มีห้องปลอดเชื้อและอุปกรณ์ที่ครบครัน ซึ่งจะประเมินค่าใช้จ่ายอีกครั้ง หากไม่พอจะเปิดขอรับบริจาคอีกครั้ง ยืนยันมีบัญชีเดียว เนื่องจากขณะนี้มีผู้แอบอ้างรวมยอดบัญชีใช้ชื่อ กิตติคุณ เพรชบุรี มาเปิดขอรับบริจาคและแอบอ้างเป็นพ่อเด็ก จึงอยากปิดรับบริจาคไว้ก่อน รวมทั้งวอนให้คนที่แอบอ้าง กลัวผลบาปใช้เด็กที่มีอาการโคม่าเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเอง

ส่วนความคืบหน้าของคดี ยังไม่มีความชัดเจน พ่อน้องบีบีกันระบุ พนักงานสอบสวนทำงานช้าและตั้้งข้อสังเกตทำไมไม่อายัดรถบรรทุก เนื่องจากทราบว่า รถไม่มี พ.ร.บ. ไม่มีประกัน และเหตุการณ์ผ่านมา 3 วัน ไม่มีการติดต่อใดใดเพื่อแสดงความรับผิดชอบและขอโทษจากเจ้าของรถบรรทุกจนกระทั่งเป็นข่าว

ล่าสุดวันนี้ ทางเจ้าของรถบรรทุกได้มาพบตนที่ รพ. พร้อมยื่นเงินสด 15,000 บาท พยายามบังคับให้ตนรับและถ่ายรูป เจตนาสร้างหลักฐานในคดีว่าได้ชดเชยเยียวยาแล้ว ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปว่า มันล่วงเลยเวลาการไกล่เกลี่ยมาแล้ว ทั้งพฤติการณ์ของเจ้าของรถไม่บริสุทธิ์ใจที่จะแสดงความรับผิดชอบ ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งเงิน 15,000 บาท เทียบไม่ได้กับอนาคตของเด็ก 3 คนต้องเสียไป ส่วนในวันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี จะเรียกตัวผู้ประกอบการรถบรรทุกและคนขับมาตรวจสอบถึงใบอนุญาตและเอกสารการขับรถอีกครั้งในเวลา 09.00 น.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า