บขส. ชดเชยเงิน “พ่อแม่ลูก” ที่ถูก พนง.ไล่ลงจากรถ ปรับคนขับ 5,000 บาท

https://youtube.com/watch?v=9S-4ej63apY

“พ่อแม่ลูก” ที่โดนพนักงาน บขส. ไล่ลงจากรถ ล่าสุดถึงเกาะสมุยแล้ว  ด้านกรมขนส่งปรับคนขับรถ 5,000 บาท พร้อมส่งตัวคนขับ บริกรรถ เข้าอบรมเรื่องการบริการ ขณะที่ บขส. จ่ายค่าชดเชย พร้อมขอโทษที่พนักงานบริการไม่ดี

จากกรณีที่เฟซบุ๊กของ Jab Sitthiphon ได้ออกมาโพสต์ภาพตั๋วโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด เส้นทางเดินรถ กรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หมายเลขรถ 991-941 เที่ยวเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา ได้ใช้ความระบุว่า

“มีผู้โดยสารที่เป็นครอบครัว มากัน 4 คน พ่อ แม่ และเด็กเล็กอีก 2 คน เด็กเล็กได้ส่งเสียงร้องดังจนพนักงานประจำรถไล่ให้ลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ซึ่งทางพนักงานประจำรถได้บอกว่า ให้คนในรถเป็นพยานว่าเด็กร้องไห้จริง จนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ เนื่องจากเกรงว่าผู้โดยสารคนอื่นจะไม่ได้นอน”

วรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย

นายวรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย ได้เรียกพบนายสถาพร อยู่เกิด พนักงานขับรถคนที่ 1, นายกิตติพงศ์ สายสุด พนักงานขับรถคนที่ 2 และนายวันชัย แก้วเจริญ บริกรประจำรถ มาซักถามข้อเท็จจริงของเรื่องราวดังกล่าว

วันชัย แก้วเจริญ บริกรประจำรถ

ทางนายวันชัย บริกรประจำรถ บอกว่า “บนรถมีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พอรถเข้าเขตมหาชัย จ.สมุทรสาคร ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังมาก ไม่มีทีท่าว่าจะเงียบ จึงได้เดินไปเตือนแม่เด็ก และพนักงานขับรถคนที่ 2 ที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ท้ายรถเพื่อเตรียมเปลี่ยนกะทุก 4 ชั่วโมง”

“จนถึง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เด็กก็ยังร้องไห้อยู่ ผู้โดยสารก็ไม่ได้พักผ่อนทั้งคัน จึงได้ไปพูดคุยกับพ่อและแม่ของเด็ก จึงให้ครอบครัวของน้องพักที่ อ.ชะอำ และเดินทางต่อไปช่วงเช้า ซึ่งเป็นการตัดสินใจของตนในเวลานั้น และจุดที่ทิ้งผู้โดยสารคิดว่าปลอดภัยที่สุด ณ ตอนนั้นหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. มีคิวรถตู้ มีโรงแรม ไม่ได้เปลี่ยว และสามารถเดินทางต่อได้ ไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด”

กิตติพงศ์ สายสุด พนักงานขับรถ

ส่วนนายกิตติพงศ์ สายสุด พนักงานขับรถคนที่ 2 บอกอีกว่า “พอเด็กร้องหนักขึ้น ผู้โดยสารชาวต่างชาติรู้สึกไม่สบายใจก็เดินไปบอกบริกรประจำรถ ตั้งแต่ขับรถมาก็เคยเจอเด็กร้องเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ร้องหนักกว่าที่เคยเจอมา”

นายวรกิตติกล่าวว่า “ได้ทำหนังสือรายงานถึงกองตรวจการขนส่งที่ต้นทางของรถที่ออกมา แต่อย่างไรก็ต้องขอคุยกับทางผู้โดยสารผู้เสียหายอีกครั้งหนึ่งก่อน เพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด ก็ยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางของผู้เสียหายรายนี้”

ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 9 มกราคม 2561) ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายมงคล ทองโบราณ พร้อมด้วย นางปภิสรา คำอยู่ สามีภรรยาและลูกชาย 2 คน เดินทางมาถึงเกาะสมุยแล้ว โดยได้เข้าพบนายวรกิตติกับนางสาวพรพิมล กลิ่นหอม นายสถานีขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีญาติไปรับจากสถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

นางปภิสราเล่าว่า “ระหว่างเดินทางลูกชายคนเล็กได้ร้องไห้ส่งเสียงดังจริง แต่ก็เป็นเวลาแค่ประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติก็มาถามด้วยความเป็นห่วงว่า เด็กไม่สบายหรือปวดท้องหรือไม่ ตนก็บอกไปว่าเด็กเพิ่งเคยเดินทางไกลเป็นครั้งแรกคงจะรู้สึกไม่สบายตัว จากนั้นชาวต่างชาติก็กลับไปที่เบาะนั่ง ต่อมาพนักงานบริการได้มาบอกว่าเด็กสงเสียงร้องรบกวนผู้โดยสารและพนักงานขับรถคนที่ 2 ที่กำลังนอนพักผ่อนเพื่อรอเปลี่ยนกะระหว่างทาง จึงบอกให้ครอบครัวของตนเองลงจากรถ โดยรถไปจอดที่หน้าปั๊มน้ำมัน หลังจากลงได้สักพักลูกชายคนเล็กก็หยุดร้องไห้

จากนั้นตนเองก็ขนสัมภาระกระเป๋า 4 ใบ ไปเปิดห้องพักภายในปั๊มน้ำมัน จนเหลือเงินติดตัวเพียง 25 บาท ช่วงเวลานั้นเครียดมากถึงกับร้องไห้ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อญาติที่เกาะสมุยเพื่อให้ช่วยโอนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ เพราะยังมีอีกหลายครอบครัวที่เดินทางพร้อมกับเด็กตัวเล็กๆ เช่นเดียวกับครอบครัวตน และไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับครอบครัวของคนอื่น”

พรพิมล กลิ่นหอม นายสถานีขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวรกิตติกล่าวว่า การที่คนขับรถสาธารณะทิ้งผู้โดยสารกลางทางถือว่ามีความผิดตาม พรบ.ขนส่ง เพราะตามหลักรถโดยสารสาธารณะจะต้องส่งผู้โดยสารถึงปลายทางทุกคนอย่างปลอดภัย ในเรื่องนี้ทางกรมการขนส่งจะได้ปรับคนขับรถเป็นเงิน 5,000 บาท พร้อมนำผู้ขับรถเข้ารับการอบรมในเรื่องของการให้บริการที่ทั้งคนขับรถและบริกรบนรถ

ทางด้านนางสาวพรพิมล (นายสถานีขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนใจได้รับผิดชอบด้วยการชดเชยค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมขอโทษที่พนักงานให้บริการที่ไม่ดีกับครอบครัว