บางแก้วแว้งกัด บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก-บิ๊กฉัตร?

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ระหว่างการเดินสาย ครม. ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ซื้อลูกสุนัขบางแก้ว 3 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงเอง 1 ตัว และซื้อให้ พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ คนละหนึ่งตัว มีรายงานว่าลูกสุนัขบางแก้วที่นายกฯ ซื้อราคาตัวละ 6,000 บาท แต่นายกฯ ได้ให้เงินไป 25,000 บาท

ซึ่งต่อมาดูเหมือนจะงานเข้า นายกฯและผองเพื่อน

เมื่อ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย บอกว่าจะเข้าไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ ทั้งสามคน กรณีมีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดรับประโยชน์ หรือ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ตามกฎหมายและประกาศของป.ป.ช.

กรณีรับผลประโยชน์เกิน 3,000 บาท

โดยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103
บัญญัติว่า

ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินจากคนอื่น เว้นแต่การรับทรัพย์สินตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช. ประกาศกำหนดไว้แล้วว่าทรัพย์สินจะมีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาทไม่ได้

ไม่ใช่แค่เงินสด แต่รวมถึงผลประโยชรูปแบบอื่นๆด้วย เช่น เครื่องบินไปต่างประเทศ ซึ่งเป็น “ผลประโยชน์” ไม่ใช่ “ทรัพย์สิน” ที่มีค่าโดยตรง อย่างนี้ก็เข้าเกณฑ์ต้องห้ามไม่ให้รับเช่นกัน เพราะว่าทรัพย์สินราคาเกิน 3,000 บาท เป็นช่องทางไปสู่การทุจริตคอรัปชั่นได้ในอนาคต

กรณีให้ผลประโยชน์

มาตรา ๑๒๓/๕ ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

นายศรีสุวรรณ บอกว่า การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ฉัตรชัย จึงเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายเรื่องการรับทรัพย์สินเกิน 3,000 บาทโดยชัดแจ้ง และจะไปแจ้ง ป.ป.ช. ในวันนี้ (3 ม.ค. 61)

นอกจากนายกตู่แล้ว มีนักการเมือง หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ ท่านอื่นอีกไหม?

อภิสิทธิ์ รับแหวนยายเนียม – รับงาช้าง โสภณ

12 ต.ค. 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยมีประเด็นเข้าข่าย เพราะไปรับแหวนทองน้ำหนัก 1 สลึงจากยายเนียม พันธุ์มณี ชาวบ้านอ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

แต่ นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า แหวนที่รับมาอาจจะมีมูลค่าเกิน 3,000 บาท เลยส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องมูลค่าของแหวนว่าเกิน 3,000 บาทตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นป.ป.ช.บอกว่าหากสงสัยก็สั่งตรวจสอบ และพอส่งคืนก็ไม่ถือว่าโกง

และก็มีกรณีรับทรัพย์สินที่เป็นงาช้างคู่จากนายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม นายอภิสิทธิ์ ก็ส่งตรวจสอบ และพบว่าเกิน 3,000 บาท ก็ได้ส่งคืนให้นายโสภณ โดย ป.ป.ช. บอกว่า การรับงาช้างดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า ความผิดสำเร็จแล้ว คือ รับไว้ก่อนได้ แล้วส่งตรวจสอบ ถ้ารู้แล้วว่าเกิน ก็ส่งคืน ไม่ผิด แต่ถ้าเก็บไว้ “ผิด”

ส.ส.เพื่อไทย จัดปีใหม่ แจกรถ

ส.ส.พรรคเพื่อไทยจัดงานวันปีใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2552 โดยมีการแจกรางวัลของขวัญชิ้นใหญ่ เช่น รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ โน้ตบุ๊ก และนาฬิกา เป็นการให้รางวัลแก่ ส.ส.ที่ไม่เคยขาดการประชุมสภาเลย มีการมอบ “กุญแจรถยนต์” เป็นของขวัญในวันดังกล่าว แต่มิใช่เป็นกุญแจรถยนต์ของจริง เป็นเพียงรูปลูกกุญแจที่ทำจากกระดาษหรือโฟมเท่านั้น และรางวัลที่มีการประกาศจะให้นั้น ยังมิได้มีการจัดซื้อมาหรือมีอยู่ในลักษณะที่พร้อมจะให้ได้ในขณะนั้น จึงไม่เข้าข่าย รอดตัวไป