“บิ๊กโจ๊ก” จ่อฟันร้านเวดดิ้ง 3 ข้อหา หลังเทลูกค้าหลายร้อยราย เสียหายนับสิบล้านบาท

ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดร้านเช่าชุดวิวาห์ชื่อดังย่านลาดพร้าว แต่เจ้าของร้านหายเงียบ ส่ง พนง.รับหน้า ยันไม่ได้ปิดร้านหนี แต่ถูกขู่จึงไม่กล้าเปิด ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” จ่อฟัน 3 ข้อหาหนัก

จากกรณีเพจดังต่างๆ ออกมาแฉร้านวิวาห์แห่งหนึ่ง ในซอยสุคนธสวัสดิ์ แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เสียหายหลายรายไปเช่าชุดแต่งงาน จ่ายเงิดมัดจำเรียบร้อย แต่ปรากฏว่าทางร้านไม่ได้ทำตามข้อตกลง ผิดเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น ชุดแต่งงานไม่ได้ตามที่จอง มีสภาพสกปรก เก่า รวมไปถึงรูปแบบการจัดงานไม่เป็นไปตามที่คุยไว้ และทางร้านได้ทำการปิดร้านขนของหนี จนผู้เสียหายต้องตามตัววุ่น เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 400 – 500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

https://youtu.be/y2Uh6u6wP2A

นางสาว จิราภรณ์ บาเอ๊ะ อายุ 27 ปี พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สืบสวนดำเนินคดีกับเจ้าของร้านดังกล่าว

นางสาว จิราภรณ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกร้านนี้ เนื่องจากเห็นการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเป็นร้านเปิดใหม่ ไม่มีประวัติเสียหายมาก่อน มีโปรโมชั่นราคาแพ็กเกจตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน อีกทั้งมีการจัดแฟชั่นโชว์ชุดแต่งงาน โดยใช้ศิลปินดาราชื่อดัง สร้างความน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อใช้บริการของร้านนี้

ซึ่งส่วนตัวได้มีการจัดงานแต่งไปแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินค่ามัดจำคืน เป็นเงิน 20,000 บาท จากการพูดคุยกับผู้เสียหายรายอื่น ที่มีการรวมกลุ่มในไลน์มากกว่า 500 คน มีบางรายสูญเงินไปแล้วหลายแสนบาท รวมความเสียหายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา เพื่อรวบรวมหลักฐานและนำมาแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งหลังจากแจ้งความ ก็ได้เดินทางไปที่ร้าน แต่กลับพบว่าปิดบริการไปแล้ว

นายออย หรือ นายปรรณวิสิฐ จงรักสานติกุล

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางร้านวิวาห์ดังกล่าวได้กลับมาเปิดให้บริการ โดยมีลูกค้าที่เป็นผู้เสียหายจำนวน 20 ราย เดินทางมาที่ร้านเพื่อรอฟังคำชี้แจงจาก นายออย หรือ นาย ปรรณวิสิฐ จงรักสานติกุล แต่พบว่าเจ้าของร้านไม่อยู่ มีเพียง นางสาว แอล พนักงานประจำร้าน มาคอยตอบคำถาม

โดย นางสาว แอล บอกว่า วันนี้เธอเป็นตัวแทนร้าน เดินทางมาเปิดร้านเพื่อให้ลูกค้าได้มาลงทะเบียน และชี้แจงปัญหาเรื่องร้านให้ชุดไม่ทันตามกำหนดว่า เกิดจากการที่ลูกค้าไม่มั่นใจในการให้บริการของร้าน จึงมีหลายคนเดินทางมารับชุดไปก่อน ทำให้ชุดในร้านไม่เพียงพอ ซึ่งพนักงานได้ห้ามลูกค้าแล้ว แต่ลูกค้าไม่ฟัง ยังยืนยันที่จะนำชุดกลับไปก่อน ซึ่งบางรายเอาชุดที่ไม่ได้จองไว้กลับไป บางรายก็ขอชุดที่ลองกลับไปด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ชุดของลูกค้าบางชุดมีสภาพขาด ไม่สมบูรณ์

ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถติดต่อทางร้านได้ และทางร้านได้ปิดไป เพราะมีลูกค้าบางรายโทร.มาข่มขู่ จนพนักงานลาออก แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของลูกค้า และขอรับผิด ยืนยันไม่ได้มีเจตนาปิดร้านหนี

สำหรับเรื่องการคืนเงิน ตัวเองไม่ทราบ เพราะเป็นเพียงพนักงาน ตอนนี้ขอแก้ไขเบื้องต้นก่อน ไม่ทราบว่าจะเจอเจ้าของร้านเมื่อไหร่ ต้องโทร.นัดก่อน และอยากให้ทุกคนใจเย็นก่อน วันนี้มาทำหน้าที่รับเอกสารข้อมูลลูกค้า เพื่อแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับความเสียหายแล้ว และกลุ่มที่ความเสียหายยังไม่เกิดขึ้น

ทั้งยืนยันว่า ลูกค้าที่ยังไม่ถึงกำหนดการรับชุดวิวาห์ จะได้รับชุดทุกคนตามสัญญา โดยจะให้เจ้าหน้าที่ประสานติดต่อไป ส่วนคนที่เลยกำหนดไปแล้ว ทางร้านจะแก้ไขปัญหาให้ รวมถึงยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกง ตอนนี้ขอเวลาในการรวบรวมรายละเอียด และจะให้สัมภาษณ์ทันทีที่พร้อม เรื่องอื่นไม่สามารถตอบแทนได้เลย ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าของร้านจะออกมาชี้แจงถึงข้อผิดพลาดดังกล่าวแน่นอน แต่ตอนนี้เจ้าของร้านกำลังเตรียมชุดให้กับทางลูกค้าที่กำลังจะแต่งงานภายในสัปดาห์นี้ก่อน

ส่วนความคืบหน้าทางคดี เบื้องต้นตำรวจ สน.โชคชัย เตรียมออกหมายเรียก นายปรรณวิสิฐ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง หากไม่เดินทางมา จะมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และออกหมายจับต่อไป ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้รายละเอียดกับพนักงานสอบสวน โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการแทนผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก

จากการสอบถามผู้เสียหายแล้วพบว่า เป็นการหลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น จึงอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเป็นปกติธุระ โดยกรณีดังกล่าวมีจำนวนผู้เสียหายกว่าหลักร้อยราย แสดงให้เห็นว่ามีความตั้งใจที่จะกระทำอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นความผิดฐานฟอกเงินอีกส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในการประกาศโฆษณาการค้า หรือบริการผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ที่ไม่เป็นตามความจริง ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วย ทั้งนี้ ตนจะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวน ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป