SHARE

คัดลอกแล้ว

รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจขยะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง พบ 7 ตู้คอนเทนเนอร์สำแดงเท็จ ระบุเป็นพลาสติก แต่พบลักลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์อันตรายจากต่างประเทศเข้าไทย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 พ.ค. 61 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร, ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 7 ตู้ ได้แก่

-บริษัท ซันเทคเมทัลส์ จำกัด จำนวน 1 ตู้

-บริษัท เหรียญทอง อีโค รีโนเวชั่น จำกัด จำนวน 1 ตู้

-บริษัท แอ๊บโซลูท เพาเวอร์เวิลด์ จำกัด จำนวน 2 ตู้

-บริษัท ฮ่องเต้ พลาสติก จำกัด จำนวน 3 ตู้

พบมีการนำเข้าขยะกากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แล้วสำแดงเท็จที่ระบุว่าเป็นพลาสติก ภายในท่าเรือ ซี 3 เขตท่าเรือแหลมฉบัง ม.10 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และบริเวณลานตู้คอนเทนเนอร์ ของบริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด ม.6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งตู้สินค้าดังกล่าวศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ทำการตรวจพบและอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 60

และสำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา มีการเข้าตรวจค้น บริษัท ดับบลิว เอ็มดี ไทย รีไซคลิ้ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 33 ม.12 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวฮ่องกง ลักลอบนำกากอุตสาหกรรม หรือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการคัดแยก และทิ้งทำลายขยะพิษดังกล่าว

จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ายังมีบริษัทในเครือข่ายที่เป็นนายทุนคนเดียวกันอีกหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป้าหมายในวันนี้จะตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 7 ตู้ที่สำแดงเป็นเท็จดังกล่าว ซึ่งเป็นของบริษัท ฮ่องเต้ พลาสติก จำกัด จำนวน 4 ตู้ และบริษัท แอ๊บโซลูทเพาเวอร์เวิลด์ จำกัด จำนวน 3 ตู้

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์ทราบว่า ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาจาก 3 ประเทศ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด จะถูกส่งไปยังโรงงานรีไซเคิล ในอำเภอแปลงยาว และอำเภอพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงมั่นใจว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน

เบื้องต้น ทั้ง 2 บริษัท มีความผิด 4 ฐานความผิด อาทิ การสำแดงเท็จการนำเข้า, ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535, ลักลอบนำเข้าและครอบครองวัตถุอันตราย เนื่องจากเป็นวัตถุอันตราย ห้ามนำเข้ามาในประเทศไทย

หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง เพื่อออกหมายเรียกผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน แต่ถ้าหากไม่มาภายในระยะเวลาที่กำหนดก็จะออกหมายจับต่อไป

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า