บุกนครดูไบ ทลายแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เช่าบ้านหรู หลอกเหยื่อคนไทย

ประเด็นคือ – ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมมือตำรวจดูไบ เข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ผู้ต้องหา 24 คน มีชาวไทยด้วย พบพฤติกรรม 

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ตำรวจดูไบ และตำรวจไทย บุกเข้าตรวจสอบบ้านหรู เลขที่ 21 ในหมู่บ้านวากา 4 ถนนวากา 27 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังได้รับข้อมูลว่า มีการจัดตั้งเป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทย

จากการเข้าตรวจค้น พบอุปกรณ์โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมทั้งบัญชีรายชื่อเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ที่ยังอยู่ระหว่างการสื่อสารเพื่อรอโอนเงิน พบโพยรายชื่อเหยื่อและรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อในแต่ละสายงาน นอกจากนี้ยังพบคนไทย ทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเต็มใจมาทำภายในบ้านหลังดังกล่าว 23 คน และชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมอีก 1 คน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า นายฉีเคอ ชาวไต้หวันที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ที่สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้รวบรวมพนักงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้วจัดให้เดินทางมาที่บ้านเช่าหลังนี้ โดยมีชาวไต้หวันอีกคนทำหน้าที่ควบคุม ทำมาประมาณ 6 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมาโดยแก๊งนี้เพิ่งหลอกเหยื่อคนไทย 7 คน ในพื้นที่ กทม. ย่านเตาปูน, ดินแดง, คลองตัน, อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , อ.ฝาง, อ.ปราณบุรี และอ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เงินไปกว่าล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการเช่าบ้านในละแวกเดียวกันอีก 3 หลัง และอาจมีผู้เกี่่ยวข้องเพิ่มเติมอีก ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล และเตรียมนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

โดยพฤติการณ์ของแก๊งนี้ มีการนำเทคโนโลยีพิเศษมาใช้ หลังจากหลอกเหยื่อสำเร็จแล้วจะวางอุบายเพื่อขอ OTP (รหัสผ่าน) จากบัญชีธนาคารของเหยื่อ แล้วหลอกให้อ่านข้อความที่ธนาคารแจ้งยืนยันมา เมื่อเหยื่อบอก OTP ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ จะนำ OTP นี้เข้าโปรแกรมดัดแปลง ทำให้คอมพิวเตอร์เปรียบเสมือนเป็นมือถือเครื่องหนึ่ง เข้าบัญชีธนาคารของเหยื่อแล้วโอนเงินออกไปยังปลายทางที่แก๊งเตรียมไว้จนหมด เช่น บิตคอยน์ (bitcoin) หรือบัญชีอื่นๆ แล้วถอนเงินออก นำส่งหัวหน้าแก๊งเพื่อแบ่งเงินตามเปอร์เซ็นต์ที่ได้ตกลงกันไว้ภายในกลุ่มแก๊ง

“นายฉีเคอ” ชาวไต้หวันเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ประมาณ 20 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตัวเอง เนื่องจากมีประวัติก่อคดีที่ประเทศไต้หวัน ทำหน้าที่คอยรวบรวมคนเข้ามาทำงานคอลเซ็นเตอร์ รวบรวมบัญชีที่ใช้กดเงิน ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงภายในแก๊ง

(เกาะอสังหาริมทรัพย์ Plam Jumeirah)

นครดูไบ เป็นเมืองที่เป็นที่ตั้ง ของโรงแรม 7 ดาว Burj Al Arab เกาะอสังหาริมทรัพย์ Palm Jumeirah ดูไบเต็มไปด้วย อสังหาริมทรัพย์สำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ขอบคุณภาพ FB : สุรเชษฐ์ หักพาล, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว