บุญรอด และ OR ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่ม ร่วมเปิดตัวกาแฟพร้อมดื่มอเมซอน และ ฮารุ โคลด์บรูว กรีนที บุกตลาดเครื่องดื่มไทย ภายใต้บริษัท Drink Enterprise

ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการเครื่องดื่มไทย เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างบุญรอด และ OR ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องดื่มทั้งคู่ จับมือกันเปิดตัวกาแฟพร้อมดื่มในรูปแบบขวด ยี่ห้อ คาเฟ่ อเมซอน และ ฮารุ โคลด์บรูว กรีนที บุกตลาดเครื่องดื่มไทย ภายใต้บริษัท Drink Enterprise 

โดย คาเฟ่ อเมซอน เปิดตัวมาสามรสชาติ คือ

• อเมซอน แบล็ค ขวดละ 29 บาท
• อเมซอนเอสเปรสโซ่ ขวดละ 35 บาท
• อเมซอน ลาเต้ ขวดละ 35 บาท

ส่วน ฮารุ โคลด์บรูว กรีนที มาพร้อมขวดยาว ตามสไตล์ที่ตลาดชาเขียวไทยคุ้นเคย มีสองรสชาติคือ สูตรไม่มีน้ำตาล และสูตรหวานน้อย ราคาขวดละ 30 บาท 

เครื่องดื่มทั้งหมดจะเริ่มขายที่ร้านค้าสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ก่อนจะขยายช่องทางไปยังห้างค้าปลีก และช่องทางอื่นๆ ต่อไป

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR บอกว่าก่อนหน้านี้ได้เคยร่วมมือกับ บุญรอด ตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มพร้อมดื่ม  ซึ่งนี่ก็คือผลิตภัณฑ์แรก เป็นการนำจุดแข็งของ OR ที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องดื่มในคาเฟ่กว่า 20 ปี จุดเด่นคือการสกัดกาแฟร้อน 27 วินาที 

เราทำคาเฟ่ อเมซอนมานาน เรามองว่าเรามีความเชี่ยวชาญและโลเคชั่นทั่วประเทศซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จ ทั้งของบริษัทและทีมงาน เรามีโรงคั่วกาแฟ มีการคัดเมล็ดพันธู์ที่เหมาะสม 

ทิศทางของบริษัท Drink Enterprise คือการนำจุดแข็งของสองบริษัทมาทำงานร่วมกัน มองว่าเป็นจุดที่มีความโดดเด่น ทั้งสองมีความคล้ายแต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว เพิ่มความหลากหลาย ทำให้เราแข็งแกร่ง 

นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เผยว่าที่ผ่านมา บุญรอด ส่งเครื่องดื่มจนเป็นที่นิยมในตลาดหลายอย่าง เช่น น้ำแร่เพอร์ร่า โซดาสิงห์ เลมอน โซดา ซึ่งการร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้เป็นการผสานจุดเด่นระหว่างกัน 

โดยเราทำสินค้าที่เป็นสินค้าแมส มีความสามารถในการขยายจุดจำหน่ายไปได้ทั่วประเทศ และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะมาพิสูจน์ว่า เราจะสามารถพา Drink Enterprise เติบโตไปได้มากแค่ไหน และมองว่าเราเลือกพาร์ทเนอร์ไม่ผิด ในอนาคตคงไม่หยุดแค่สองโปรดักต์นี้ ต้องรอดูในอนาคต

[ เบื้องหลังของผลิตภัณฑ์ ] 

ธุรกิจกาแฟเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มกาแฟพร้อมดื่มหรือ RTD เราเลยมองหาตลาดใหม่ๆ นำรสชาติที่ถูกปากคนไทย อ้างอิงจากยอดขายกาแฟอเมซอนกว่า 300 ล้านแก้ว โปรดักต์ใหม่จึงเป็นการต่อยอดกาแฟอเมซอน ให้หาซื้อง่าย ดื่มง่ายมากขึ้น 

กลุ่มทาร์เกตคือ คนทำงานรุ่นใหม่ ที่มีเวลาน้อย คนไทยบริโภคกาแฟมากขึ้น แต่ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพมากขึ้น จึงเป็นโจทย์ที่นำมาพัฒนากาแฟพร้อมดื่ม ทำกาแฟสาด ลงไปในขวด ซึ่งสามรสชาตินี้ เป็น Top 5 ที่ลูกค้าซื้อมากที่สุด

ส่วนเครื่องดื่มชาเขียว ฮารุ ที่ใช้ชื่อนี้ เพราะเราอยากได้คำที่มันง่าย ไม่เกินสองพยางค์ ฮารุ เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าฤดูใบไม้ผลิ มีวัฒนธรรมการออกมาดื่มชา ชมซากุระ เราเลยใช้ชื่อนี้ 

[ การทำการตลาด ]

เน้นทำโฆษณาออนไลน์ และป้ายต่างๆ ใน กทม. ก็จะมีด้วย เพราะกลุ่มเป้าหมายก็เป็นคนเมืองด้วย นอกจากนี้ยังมีจุดขายอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เฉพาะใน ปั๊ม ปตท. มี 2,000 แห่ง และยังไม่รวมสาขาของเซเว่นทั่วประเทศที่มีกว่าหมื่นแห่ง

โดยเป้าหมายยอดขายของกาแฟอยู่ที่ 8 ล้านขวด ส่วนชาเขียวอยู่ที่ 10 ล้านขวด