สาธารณสุขบุรีรัมย์ ร่วมกับ รพ. ระดมเจ้าหน้าที่เข้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับญาติ ชาวบ้าน และนักเรียน 143 คนที่ผ่านการคัดกรองเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสสุนัขและใกล้ชิดกับ ด.ญ.14 ปีที่เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าป้องกันติดเชื้อ เผยประวัติสอบสวนโรคน้องถูกลูกสุนัขข่วนตั้งแต่ ต.ค.60
วันที่ 21 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ ด.ญ.ชลธาร หรือ น้องต่าย อายุ 14 ปี นักเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านสุขสำราญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นรายแรกของจังหวัด และรายที่ 6 ของประเทศ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่ ล่าสุดสาธารณสุขจังหวัดก็ได้ร่วมกับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลอำเภอปะคำ ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับชาวบ้าน ญาติพี่น้อง ครูและนักเรียน จำนวน 143 คน ที่ผ่านการตรวจคัดกรองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสกับลูกสุนัข และใกล้ชิดกับ ด.ญ.วัย 14 ปีที่เสียชีวิต เพื่อป้องกันการติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
ขณะที่นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า หลังจากสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับ รพ.บุรีรัมย์ และ รพ.ปะคำ ได้ดำเนินการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการเก็บน้ำลาย รากผม และชิ้นเนื้อจากเยื้อสมองของเด็กหญิงวัย 14 ที่เสียชีวิตไปตรวจ ผลยืนยันพบว่าติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทั้ง 3 ตัวอย่าง และจากการสอบสวนโรคพบว่าครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตได้ขอลูกสุนัขอายุประมาณ 1 เดือน ของคนรู้จักในอีกตำบลมาเลี้ยง 2 ตัว ในช่วงเดือน ต.ค.2560 ซึ่งน้องก็ได้คลุกคลีใกล้ชิดกับลูกสุนัขตลอด และประวัติทราบว่าน้องได้ถูกลูกสุนัขข่วนที่แขนช่วงที่เลี้ยงสัปดาห์แรก ทั้งยังทราบว่าลูกสุนัขตัวเดียวกันได้กัดพ่อ แม่ และยายของเด็กด้วย แต่ทั้ง 3 คนที่ถูกลูกสุนัขกัดได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ รพ. แต่ ด.ญ.วัย 14 ที่ถูกข่วนญาติไม่ได้พาไปฉีดวัคซีนเพราะคิดว่าถูกข่วนเพียงเล็กน้อยไม่มีบาดแผล หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไร กระทั่งวันที่ 16 มี.ค.2561 ญาติได้พาน้องไปรักษาที่ รพ.ปะคำ ด้วยอาการไข้สูง กระวนกระวาย ตื่นต่อสิ่งเร้ากระตุ้นง่าย โดยนอนรักษาที่ รพ.เพียงวันเดียววันต่อมาก็เสียชีวิต ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้ามีระยะฟักตัวตั้งแต่ 7 วันถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัดหรือบริเวณที่ได้รับเชื้อว่าใกล้กับระบบสมองหรือไม่
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทั้งบุคลากรการแพทย์ คนในชุมชน ญาติพี่น้อง และนักเรียน ซึ่งสุ่มเสี่ยงสัมผัสสารคัดหลั่งของสุนัขหรือใกล้ชิดกับน้องที่เสียชีวิตรวมทั้งหมด 143 คน จะต้องทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั้งหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ยังได้ฝากเตือนผู้ที่เลี้ยงสุนัข แมว หนู หรือสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งสามารถติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ จะต้องนำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนตามกำหนดเพื่อป้องกันการระบาดของโรค และหากใครถูกสุนัข แมว กัด ข่วน หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง ก็ควรจะรีบล้างแผลให้สะอาด ก่อนจะไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาในทันทีเพื่อความปลอดภัย