25 พรรคร่วมลงนามทำตามสัญญาก่อนการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ส่ง “จุรินทร์” ร่วมลงนามด้วย เผยสัญญาข้อสำคัญใครจะจัดตั้งรัฐบาลต้องรวมเสียง ส.ส.ได้เกินครึ่ง
วันที่ 21 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทราฯ ศูนย์ราชการ มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย เชิญพรรคการเมืองเข้าร่วมลงนาม “สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน” เพื่อให้พรรคการเมืองให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะหาเสียงเลือกตั้งอย่างมีจรรยาบรรณ และให้จัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นไปโดยเคารพเสียงและความต้องการของประชาชน
สำหรับพรรคการเมืองที่เข้าร่วมลงนามในวันนี้ มี 25 พรรค อาทิ พรรคอนาคตใหม่ พรรคพลังไทยดี พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคภูมิใจไทย พรรคสามัญชนเป็นต้น ส่วนพรรคที่ไม่ได้มาร่วมลงนาม อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา เป็นต้น ทั้งนี้พรรคการเมืองที่ยังไม่ร่วมสามารถลงนามได้ถึงวันที่ 10 มกราคม 2562
สำหรับตัวแทนพรรคที่เข้าร่วม เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์,นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย,นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ,นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย,นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา, นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ ได้ร่วมกันอ่านคำสัญญาที่พรรคให้ไว้กับประชาชนก่อนจะร่วมลงนาม โดยมีเนื้อหา เช่น แต่ละพรรคจะปฏิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียง เช่น ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ก่อนเลือกตั้งพรรคการเมืองไม่ซื้อเสียง หาเสียงด้วยวิธีสันติ เคารพสิทธิพรรคการเมืองโดยปลอดจากความหวาดกลัว
ส่วนหลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะต้องนำนโยบายที่หาเสียงมาจัดทำนโยบายร่วมกันก่อนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี สนับสนุนพุดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้ท้องถิ่นมีอำนาจตัดสินใจการบริหารด้วยตนเอง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าร่วมลงนาม”สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน” ว่าการลงนามนี้ไม่ได้แสดงว่าเป็นนัยยะฝ่ายทางการเมืองแต่อย่างใด แต่พรรคได้พิจารณาถึงหลักการ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็นเท่านั้น ตนมองว่า ตามระบอบประชาธิปไตยของรัฐสภา ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลต้องมีเสียงข้างมากถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะไม่มีเสถียรภาพทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ยากจึงจำเป็นต้องได้เสียงข้างมาก