ประธาน กกต. ระบุตั้งชื่อพรรคพลังประชารัฐได้ “บิ๊กฉัตร” ไม่เชื่อ นายกฯ จะไปเป็นที่ปรึกษา

ประเด็นคือ –  หลังเกิดกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นที่ปรึกษาพรรค เพื่อปูทางเป็น นายกฯ คนนอก สำหรับการเลือกตั้งในอนาคต

วันนี้ (12 มี.ค.61) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป้อม) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ปฏิเสธข่าวที่ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเป็นที่ปรึกษาพรรค โดยระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้

ภาพจาก 2.moac.go.th

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ (บิ๊กฉัตร)  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนไม่เคยได้ยินเลย คิดว่า คงไม่ใช่ ส่วนที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคนี้ พล.อ.ฉัตรชัย มองว่า พ.อ.สุชาติเป็นนายทหาร และเคยเป็นนักการเมืองอยู่พรรคความหวังใหม่ แต่คิดว่าคงไม่ใช่ และนายกฯ ก็มีจุดยืนแล้วในเรื่องการเมือง

ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ประธาน กกต.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าทำได้หรือไม่ ต้องไปพิจารณารัฐธรรมนูญอีกครั้ง ส่วนเรื่องการตั้งชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” ส่วนตัวมองว่า ตั้งได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย เพียงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งระบียบ และกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เกี่ยวกับการตั้งชื่อพรรค ห้ามไปสอดคล้องและทำลายระบอบประชาธิปไตย

ภาพจาก parliament.go.th

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.สุชาติ อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ในฐานะ 1 ใน 15 ผู้จดจองชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคว่า เป็นกระแสข่าวที่คาดการณ์อย่างมีเหตุผล แต่มองว่า คงไม่จำเป็นต้องมาเป็นที่ปรึกษา เพราะรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกไม่ได้กำหนดว่า บุคคลที่จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ ต้องมีตำแหน่งภายในพรรค พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่จำเป็นต้องเป็นที่ปรึกษา เพื่อเปิดหน้าเล่นขนาดนั้น

ที่ผ่านมา นายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ผู้เข้ายื่นเรื่องจดตั้งพรรค “พลังประชารัฐ” เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา จะปฏิเสธว่า ไม่ใช่พรรคนอมินีของคสช. แต่ดูเหมือนชื่อของ พ.อ.สุชาติ ก็สร้างเป้าหมายใหม่ให้มองได้ว่า หรือนี่จะเป็นตัวจริง

“ประชารัฐ” เป็นคำที่รัฐบาลคสช. นำมาใช้ โดยมีความหมายถึงการรวมเอาพลังทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะอยู่ในภาคประชาชน ภาคธุรกิจ หรือภาครัฐ มาใช้ โดยมองบนพื้นฐานว่า “คนไทยทุกคน ก็คือ ประชาชนของชาติ” ซึ่งถือเป็นพลังอำนาจที่สำคัญในการแก้ไขปัญหา ในการเปลี่ยนแปลงหรือการปฏิรูป อาทิ สานพลังประชารัฐ, โครงการบ้านประชารัฐ, เน็ตประชารัฐ, ธงฟ้าประชารัฐ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ก่อตั้ง “พรรคพลังประชารัฐ” ปัดนอมินี คสช.