
ภาพ : สำนักนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี เผยต้องดูแลประเทศและจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนมีพระราชพิธีสำคัญ ย้ำอาจจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาบางเรื่องอีก ส่วนเรื่องการร่วมงานพรรคพลังประชารัฐยังไม่ตัดสินใจแต่จะร่วมงานกับใครต้องเป็นพรรคที่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน
วันที่ 4 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ประเทศกำลังจะมีงานสำคัญ เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับครองราชย์ก็เหลือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมี 2 ช่วง คือ ช่วงการเตรียมงานของรัฐบาลและช่วงพระราชพิธีที่จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ระหว่างนี้รัฐบาลจึงต้องเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้งให้สงบเรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดนี้มีหลายกลไก นายกรัฐมนตรีสั่งทั้งหมดไม่ได้บางอย่างก็ไม่ควรจะสั่ง บางอย่างก็ไม่ควรจะไปยุ่งถึงจะมีอำนาจก็ตาม
“หลายอย่างแก้ปัญหาไม่ได้ก็ให้ใช้มาตรา 44 ซึ่งก็ต้องพิจารณาว่าควรหรือไม่ กฎหมายอื่นจะเสียไหม จะทำอย่างไรให้มันเดินหน้าได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้รัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้สงบเรียบร้อย ถ้าเวลาเกิดพอดีในช่วงเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของเหนือหัว และตนยังไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นแค่อยากจะเตือนทุกคนเพราะลืมกันไปแล้ว
หลังชี้แจงเรื่องดังกล่าวเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากโพเดียมแถลงข่าวทันที โดยนักข่าวถามตามไปว่า “อย่างนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งก่อนหรือหลังพระราชพิธีหรือไม่”
พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “ยังไงก็เลือกตั้งก่อนอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการจะใส่ชื่อในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค ว่าพรรคพลังประชารัฐเขาก็ชัดเจนของเขา แต่ตนไม่จำเป็นต้องชัดเจนกับเขาด้วย ทุกพรรคก็เสนอตนทั้งนั้นแต่ก็ยังไม่เห็นจะมีใครมาเชิญเสียที เขาพูดก็พูดไปตนยังไม่ตัดสินใจ แต่ในฐานะที่เคยร่วมงานในรัฐบาลกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา พรรคไหนก็ตามที่ทำงานแล้วสอดคล้องกับที่ทำอยู่วันนี้ ถ้าตนตัดสินใจเข้าไปสู่การเมืองตนก็ต้องหนุนพรรคเหล่านี้เพราะได้ทำงานต่อในสิ่งที่ทำไว้ แต่ตนจะเป็นนายกฯหรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะต้องมีการพิจารณาในสภา
“ธงของผมคือสนับสนุนพรรคการเมืองที่เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ พรรคอื่นก็ว่ามาสิว่ายุทธศาสตร์ว่าอย่างไร อาจจะดีกว่าพรรคพลังประชารัฐก็ได้ ลองเสนอยุทธศาสตร์มาสิ ดีกว่ามาติฉินกันอยู่อย่างนี้ แต่ไม่เคยพูดว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร”