“ประเทศกูมี” ทะลุ 16 ล้านวิว ขณะ “บิ๊กโจ๊ก” จ่อออกหมายจับ พร้อมนานาทัศนะทั้งชอบ-ไม่ชอบ

ยังคงแรงอย่างต่อเนื่องทั้งเพลงและกระแสข่าว สำหรับเพลง “ประเทศกูมี” ผลงานโดยกลุ่ม Rap Against Dictatorship หรือ RAD

ซึ่งเผยแพร่เพลงแรปสะท้อนสังคมและการเมือง ที่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับแต่เผยแพร่มิวสิกวิดีโอมาตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.เป็นต้นมา จนกระทั่งถึงวันนี้ (28 ต.ค. 61) ที่มียอดวิวใน Youtube ทะลุ 16 ล้านวิวแล้ว รวมทั้งยังมีผู้อัปโหลดเพลงประเทศกูมีขึ้นระบบบล็อกเชน ซึ่งยากนักที่ใครจะเข้าไปลบเพลงดังกล่าวได้

ไม่ใช่แค่ยอดวิวที่ร้อนแรง แต่กระแสสังคมที่ผู้คนจากทุกวงการ ตั้งแต่รัฐบาล นักการเมือง นักกฎหมาย ดารา นักร้อง ไปจนถึงประชาชนทั่วไป ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เพราะต่างก็กระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วย ชื่นชม รวมทั้งคนที่ไม่เห็นด้วย และไม่ชอบ

นอกจาก “เนื้อเพลง” ประเทศกูมี ที่ถูกสังคมนำมาถกอย่างหนัก ถึงขั้นที่รัฐบาลได้ออกมาประกาศ “เสียใจ” ที่เยาวชนแต่งเพลงไปในเชิงทำร้ายประเทศชาติแล้ว “มิวสิกวิดีโอ” ที่เป็นเรื่องราวคล้ายเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 ก็ทำให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก บก.ปอท. ได้ออกมาพูดถึงว่า เข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หลังจากนั้น “ประเทศกูมี” ก็กลายเป็นกระแสสังคมที่ดึงให้ผู้คนต่างก็เข้ามาวิจารณ์ กระเพื่อมเป็นวงกว้างหนักขึ้นไปอีก

ขอบคุณข้อมูลจาก twitter @weeranan

อย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวว่า เนื้อหาของเพลงไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายประเทศ ดังนั้น ควรยอมรับความคิดที่หลากหลายและการอยู่ร่วมกันภายใต้ความหลากหลาย อย่างไรก็ตาม การเตรียมใช้อำนาจทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มดังกล่าว ตนมองว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิของกลุ่มแรปเปอร์ สิทธิของประชาชนในการแสดงความเห็นโดยสุจริต

ขอบคุณข้อมูลจาก twitter @weeranan

เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่า เป็นคนที่ฟังเพลง Rap สากลอยู่แล้ว เพราะมีเนื้อหาสะท้อนสังคม ส่วนกรณีเพลงแรปประเทศกูมี ไม่ทราบว่าผิดกฎหมายตรงไหน แม้แต่ทางตำรวจเองก็ยังอธิบายหรือชี้ประเด็นที่ผิดไม่ได้

ด้าน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า รัฐบาลไทย อย่าไปโทษน้องๆ เลย โทษตัวเองเถอะครับ เพลงประเทศกูมี ที่ทางการฯ ออกมาโวยวาย จะเอาผิดน้องๆ ศิลปินกัน ใครกันแน่ที่ช่วยโปรโมตเพลงให้น้องผมจะสอนเบสิก (Basic) การทำการตลาด (Social Marketing ) แบบง่ายๆ ฟรีๆ ให้ โดยไม่ต้องใช้เงินภาษี มาทำ จะได้ดูเป็น ทำเป็น ว่าประเด็นไหนควรจะเงียบ ประเด็นไหนควรจะประโคมข่าว…

ฝั่งดาราและนักร้องอย่าง ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็ได้ออกมาระบุผ่านอินสตาแกรมว่า เพลง “ประเทศกูมี” ทุกคนควรฟังครับ แม้จะมีสิ่งที่ดีๆ อีกหลายมุมในประเทศไทย แต่นักแต่งเพลงในเพลงนี้ เลือกหยิบมุมที่มันติดอยู่ในใจคนไทยทุกคนออกมาพูดผ่านเพลง ได้ดีมาก ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกๆ คนนะครับ เก่งมากและ พวกนาย ไม่ได้ผิดอะไร ไม่ต้องไปกลัว ประเทศไทยเป็นของพวกเราทุกคน..เดี๋ยวไปหัดร้องก่อนนะ 55

ขณะที่อีกมุมมองที่เห็นต่าง ก็ได้สะท้อนความรู้สึก และออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

อย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า

“คลิปนี้เผยแพร่ไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในคลิปมีซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษ ผมเห็นเนื้อหาเหมือนต่อว่ารัฐบาล แต่สุดท้ายคนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย คนทำอาจจะได้รับความสนุกสนาน สะใจในการใช้ข้อมูลตอบโต้หรือกล่าวว่ารัฐบาล แต่อยากให้ดูว่าสุดท้ายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย”

เช่นเดียวกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” เช่นกัน โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า

“ระหว่างทางมีผู้สื่อข่าวมาขอสัมภาษณ์ เขาถามในประเด็นของเพลงแร็พชื่อว่าประเทศกูมี ที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียลขณะนี้ ผมบอกว่าการที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย แต่กลับมาแสดงออกว่ารังเกียจชิงชังและคิดทำร้ายแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเองแบบนี้ ถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง”

ด้าน ทิวา สาระจูฑะ บก.นิตยสารสีสัน เจ้าของรางวัล “สีสัน อวอร์ด” ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Tiva Sarachudha” โดยระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า…

“…การแต่งเพลงหรือเขียนวิพากษ์วิจารณ์อะไรสามารถทำได้ ไม่ว่าจะมาจากแนวคิดแบบไหน เพียงแต่ต้องระวังว่าจะไปละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือเปล่าเท่านั้น เพราะนั่นเป็นเรื่องทางกฎหมาย
แต่การนำภาพจำลองโศกนาฏกรรมที่เป็นความขมขื่นปวดร้าวจากอดีตมาใช้ประโยชน์ ผมถือว่าขาดความเคารพกัน ผมไม่อยากมองในแง่ลบว่า มีใครอยู่เบื้องหลังกิจกรรมครั้งนี้หรือเปล่า แต่ก็ได้ผลในการสร้างปฏิกิริยา ซึ่งคงสร้างความพะอืดพะอมต่อผู้มีอำนาจพอสมควร

แต่ปฏิกิริยาจากผม ในฐานะเป็นหนึ่งในคนยุค 14 ตุลา และ 6 ตุลา ถือว่าวิดีโอที่เอาภาพเหตุการณ์เก่ามารื้อฟื้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองใดๆ ในยุคปัจจุบัน เป็นความน่ารังเกียจ และออกจะต่ำทราม”

ขอบคุณภาพจาก FB: Natee Ekwijit

ขณะที่ นายนที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดดาเบลส นักร้องแรปเปอร์รุ่นใหญ่ของวงการ ก็ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยแชร์ข้อความจากแฟนเพจ “ตบดิ้น” ที่ระบุถึงกรณีเจ้าหน้าที่จะเอาผิดผู้ทำเพลงดังกล่าวว่า “เสรีภาพเป็นคนละเรื่อง กับการละเมิดกฎหมาย และหากจงใจปลุกระดมอาจมีการเลื่อนเลือกตั้ง”

จากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ถามว่า “อยากฟัง ทรรศนะพี่อุ๋ยต่อน้องๆ ในวงการหน่อยคับ ตอนนี้คนแชร์เยอะมาก เด็กรุ่นใหม่ๆ มันจะไม่เข้าใจ”

อุ๋ย บุดดาเบลส ตอบว่า “ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็เป็นสิทธิของเค้าครับ แต่ถ้าผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย เสรีภาพมีขอบเขต ไม่ด่ารัฐบาล ไปด่าชาวบ้านชาวช่องยังโดนฟ้องหมิ่นประมาทเลย อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ที่แกล้งโง่ไม่เห็นว่าเผด็จการในคราบประชาธิปไตยเป็นยังไง ถ้าน้องเค้าสนใจหาข้อมูลกันอีกสักหน่อย คงไม่โหนเรื่องเสือดำ เค้าก็ดำเนินคดีกันปกติ เรื่องปิดกั้นสื่อ มองแง่ดี น้องคงโตไม่ทันยุครัฐบาลประชาธิปไตย คุมสื่อหนักกว่านี้ พูดไปไม่ฟังหรอกครับ บางเรื่องต้องใช้เวลากว่าจะเข้าใจ ถึงมีคำว่าวัยวุฒิ”

ทำให้มีผู้ไม่เห็นด้วย และได้คอมเมนต์ตอบโต้ว่า “ด่ารัฐบาลปูกันทั้งประเทศตอนนั้นไม่เห็นโดนจับกัน พอมารัฐบาลนี้ มันตรงกับเนื้อเพลงจริงๆ โดนเรียกซะงั้น”

อุ๋ย บุดดาเบลส จึงโต้กลับว่า “ไม่โดนจับแต่โดน M79” โดยเจ้าของคอมเมนต์บอกว่าเป็นเหตุผลคนละกรณีกัน แต่อุ๋ยแย้งว่า “กรณีเดียวกันเลยครับ วิจารณ์รัฐบาล เอกยุทธ อัญชันบุตร ชิปปิ้งหมู ตอนพี่เด๋อ จะสร้างเรื่องนายโอ๊คอ๊าค สันติบาลไปบุกบ้าน คุณคงไม่รู้ว่าลูกชายอดีตนายกฯ เอามีดกรีดหน้า Rapper ที่วิจารณ์เค้ามาแล้ว แต่เค้ากลัวอิทธิพลไงครับ เลยไม่กล้าเอาเรื่อง”

ล่าสุดวันนี้ (28 ต.ค. 61) กลุ่ม Rap Against Dictatorship จึงได้ออกมาแถลงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ โดยระบุข้อความว่า…

“หลังจากเมื่อวานเราได้คุยกับทีมกฎหมายจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เราได้ทราบถึงข้อควรกังวลบางอย่าง ซึ่งก็คือประเด็น Comments ใน YouTube ที่ตอนนี้สูงถึง เจ็ดหมื่นกว่า Comments ไปแล้ว

ในจำนวนนั้น มีหลายๆ ความเห็นได้ละเมิดและขัดกับหลักกฎหมายตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงร้ายแรง ซึ่งเราเองตามดูแลได้ไม่หมด

เราจึงได้รับคำแนะนำจากทีมกฎหมายว่า ให้ปิดส่วนของช่องแสดงความเห็นออกไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้น มันจะเป็นจุดที่เราสามารถถูกใช้โจมตีได้ และไม่เป็นผลดีกับเป้าหมายของกลุ่ม

หวังว่าทุกท่านจะทราบเหตุผลและเข้าใจพวกเรานะครับ

ขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงอีกครั้งครับ”

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รรท.ผบช.สตม.ฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ผู้ที่ทำคลิปเพลงดังกล่าวผิดอยู่แล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิสูจน์ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบตัวบุคคล จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งหมด เพราะทำให้ประเทศเสียหาย นำข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

อ่านข่าว “ประเทศกูมี” ทั้งหมดที่นี่