กัมพูชาจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2593 หรืออีก 32 ปีข้างหน้า โดยจะต้องเน้นการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของแรงงาน ความทันสมัยของเทคโนโลยี
สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2561) ในการประชุมวิสัยทัศน์อนาคตกัมพูชา ว่า กัมพูชาตั้งเป้าหมายจะกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2593 หรืออีก 32 ปีข้างหน้า โดยจะต้องเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ภายในปี 2573 และเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2593
ซึ่งจะเน้นไปที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาความสามารถของสถาบัน พัฒนาความทันสมัยของอุปกรณ์เทคโนโลยี และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รวมถึงการพัฒนาขยายโครงสร้างพื้นฐาน
ตามรายงานของธนาคารโลก (เวิร์ลแบงก์) ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันกัมพูชาเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกล่างค่อนข้างต่ำ ตามข้อมูลเมื่อปี 2558 ที่มีรายได้ประชาชาติต่อหัว อยู่ที่ 1,070 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 33,385 บาท)
ทั้งนี้การแบ่งประเภทตามเกณฑ์ของเวิร์ลแบงก์ ประเทศที่มีรายได้ประชาชาติต่อหัวระหว่าง 1,006 – 3,955 ดอลลาร์ (ประมาณ 31,000 – 123,400 บาท) จัดเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ หากรายได้ประชาชาติต่อหัวระหว่าง 3,956 – 12,235 ดอลลาร์ (ประมาณ 123,401 – 381,747 บาท) จัดเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง และประเทศที่มีรายได้ประชาชาติต่อหัวมากกว่า 12,236 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 381,778 บาท) ขึ้นไป จัดเป็นประเทศที่มีรายได้สูง
ขณะเดียวกันสมเด็จฮุนเซน คาดว่ากัมพูชาจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 7 ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นไปที่ประมาณ 24.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการเติบโตของกัมพูชาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการส่งออกเสื้อผ้า การท่องเที่ยว การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และการเกษตร
สำหรับประเทศไทย ถูกเลื่อนชั้นเป็นประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ตั้งแต่ปี 2554
หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 16 มี.ค. 2561 อยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.2 บาท
ที่มา xinhuanet, World Bank