SHARE

คัดลอกแล้ว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นายพิชัย นริพทะพันธุ์  นำทีมพรรคไทยรักษาชาติ ปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง เป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร ชูแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ขอให้ประชาชนใช้สิทธิประชาธิปไตยเลือกตั้ง ล้มระบอบ คสช.

วันที่ 1 มี.ค. 62 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ นำทีมแกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส. ขึ้นปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในเวทีกรุงเทพมหานคร ระบุพรรคมีนโยบายพลิกฟื้นด้านเศรษฐกิจ 8 ข้อ แก้ปัญหารวยกระจุกจนกระจาย มีนโยบายสร้างรายได้ขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ดูแลเกษตรกรแบบครบวงจร

พร้อมต่อยอดนโยบายพรรคไทยรักไทย เช่น สินค้า OTOP ส่งเสริมธุรกิจ SME และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยพัฒนาให้ก้าวหน้าและดีขึ้น

นอกจากนี้ได้แสดงความเห็นเรื่องการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เช่นการสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบิน ว่าแท้จริงแล้วเป็นการประมูลเพื่อประโยชน์เพิ่มมูลค่าที่ดินเอื้อให้กับนายทุนรายใหญ่รายเดียว ซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับพลเอกประยุทธ์ ส่วนรถไฟความเร็วสูงที่มียกให้จีนดำเนินการ ทั้งมีการยกเว้นทางกฎหมายในการจัดซื้อจัดจ้าง และกฎกติกาการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม

หากพรรคได้เป็นรัฐบาล จะทำการยกเลิกการประมูลโครงการขนาดใหญ่ที่มีกระบวนการไม่โปร่งใส  และทบทวนบัตรคนจน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้คนจนซื้อสินค้าร้านธงฟ้า ปลายทางมี 20 บริษัทที่ได้ประโยชน์ แต่ท้ายสุดมีไม่กี่บริษัทได้เงิน โดยมองว่า โครงการประชารัฐ เป็นการแจกเงินให้เจ้าสัวผ่านเงินคนจน ในฐานะที่เป็นรักษาการพรรคไทยรักไทย รู้ว่าจะต้องทำนโยบายอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้น เป็นพรรคแรกที่ประกาศนโยบายแล้วทำตามในทุกเรื่อง ในนามพรรคไทยรักษาชาติก็เช่นกัน

นอกกจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวถึง ระบอบ คสช. ที่ถูกสร้างขึ้นมาขวางรัฐบาลประชาธิปไตย เท้าความการลงประชามติ ประชาชนร้อยละ 90 ไม่รู้เนื้อหา เพราะมีการปิดกั้นแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับ การสรรหา ส.ว. 250 คน ที่พลเอกประยุทธ์ ได้สิทธิ์เลือกคนเข้าในสภาเกินครึ่งหนึ่ง ของ ส.ส.ทั่วประเทศที่ประชาชนเลือก

เชื่อได้ว่า ส.ว. 250 คน เป็นแผนสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยมีพรรคการเมืองที่จัดตั้งในทำเนียบรัฐบาลขับเคลื่อน และใช้โครงการรัฐแจกเงินผ่านโครงการในช่วงการเลือกตั้ง เหมือนเป็นการซื้อเสียงผ่านงบประมาณแผ่นดิน ทั้งรัฐบาลยังมีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบประมาณผูกพัน ปลดข้าราชการ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเหนือองค์กรใดใด ไม่เว้น ศาลในกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีนายวิษณุ เครืองาม ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่ขาดคุณสมบัติแคนดิเดตรายชื่อนายกฯ เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่มีอำนาจระงับธุรกรรมทางการเงินตนมา 4 ปี และยังคุมตัวตนไปปรับทัศนคติ แล้วต่อมาบอกว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ต้องดีเบต เพราะเป็นราชการต้องวางตัวเป็นกลาง

เชื่อว่าที่นายวิษณุกล่าวเช่นนี้ เพราะมีแนวความคิดรักษาภาพพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ คนนอก ที่ไม่ผูกพันกับพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองต้องสัญญากับประชาชน แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ต้องการภาพตนในลักษณะนั้น โดยมีความต้องการเป็นนายกฯ คนนอกเหมือน 30 ปีที่แล้ว จึงให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติออกนโยบายให้ รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เขียนให้ระบอบ คสช.อยู่ได้ 20 ปี

ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ ที่จะชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย ว่าให้ระบอบ คสช.สืบทอดอำนาจต่อหรือไม่ ถ้าอยากแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องให้พรรคฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนเสียงท่วมท้น

นอกจากนี้ นายจาตุรนต์กล่าวถึงที่ผู้บัญชาการทหารบก ให้พรรคการเมืองที่เสนอตัดลดงบประมาณกองทัพไปฟังเพลงหนักแผ่นดินว่า ไทยรักษาชาติไม่ได้เป็นศัตรูกับทหาร แต่หากคุณภาพชิวิตประชาชนไม่ดี จำต้องปรับลดงบประมาณ และข้าราชการไม่ควรต่อว่า เพราะหากนักการเมืองเข้าสภาตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถสั่งสอบผู้บัญชาการทหารบก ได้ หากมีปัญหา

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ปราศรัย กรณีเพจเฟซบุ๊กของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปลี่ยนสถานะจากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นบุคคลสาธารณะ โดยกล่าวถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ขาดความน่าเชื่อถือที่ออกระบุว่า หัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นองค์กรชั่วคราว แต่ทำไมบริหารราชการแผ่นดิน มีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งแบบนี้ไม่ถือว่าชั่วคราว

และวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเก็บภาษีสุนัขและแมว การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปราศรัยกฎหมายการเลือกตั้ง ที่มีการออกแบบให้มีการสืบทอดอำนาจ ทั้งนายกรัฐมนตรียังมีอำนาจ คสช. มาตรา 44 ซึ่งสามารถสั่งปลด กกต. หรือยกเลิกการเลือกตั้งได้ เพราะอำนาจมาตรา 44 มีอำนาจสูงสุด

และปราศรับถึงการสรรหา ส.ว. 250 คน โดยพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ว่าสุดท้ายแล้ว ส.ว.จะยกมือโหวตให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ไม่ต่างจาก สนช.ที่ยกมือผ่านร่างกฎหมายโดยไม่มีคนค้าน

ทั้งนี้ ได้ปราศรัยถึงหลักประกันสืบทอดอำนาจ ที่มีหุ้นส่วนหลายสาขา เช่น พรรคประชาธิปัตย ที่อาจจะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ ในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางการร่วมมือสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก

และหุ้นส่วนพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ หุ้นส่วนที่เป็นมือสำคัญคือ ส.ว. 250 คน และองค์กรอิสระรับลูกการตรวจสอบ

ซึ่งทั้งหมดทำงานเป็นกระบวนการ เพื่อให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นพิธีสืบทอดอำนาจ ดังนั้นพรรคไทยรักษาชาติขอให้ประชาชนทำลายพิธี โดยสร้างปาฏิหารย์ประชาธิปไตย ให้ประชาชนเป็นผู้เลือก และยอมรับว่า พรรคจัดตั้งเพื่อพาคนกลับบ้าน คือ พาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ ปราศรัยเปิดเผยช่วงที่ตนถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุมตัวไปปรับทัศนคติหลังได้วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งระบุ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ประเทศไทยเสียหาย 10 ล้านล้านบาท หากประชาชนต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเลือกพรรคไทยรักษาชาติ หากได้เป็นรัฐบาล จะลดราคาน้ำมันดีเซล 5 บาท และลดราคาน้ำมันเบนซิล 3 บาท

ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร , ชิน ชมดี / Thai News Pix

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า