SHARE

คัดลอกแล้ว

 

ครม.ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนถอนเงินสดได้ 3 เดือน ก.พ.-เม.ย.62   หลังจากกำหนดให้ซื้อเฉพาะของจากร้านธงฟ้า  พร้อมต่ออายุฝึกอาชีพที่ทำให้ได้เงินเพิ่มรายเดือนๆ ละ 200 และ 100 บาทไปอีก 6 เดือน

วันที่ 15 ม.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมหารือเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้สามารถนำเงินที่ได้รับรายเดือน สามารถถอนเป็นเงินสดและนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ส่วนหนึ่งจากยอดที่ให้ไปทั้งหมด แต่ต้องเหลือเงินจำนวนหนึ่งไว้ใช้ซื้อของในร้านค้าประชารัฐด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะนำไปใช้ซื้ออย่างอื่นหมด ทั้งนี้ได้มีการประเมินการใช้จ่ายงบประมาณครั้งนี้ไปพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้บ้างและบางส่วนที่ยกระดับไม่ได้ก็จะมีมาตรการอื่นเสริมเข้าไป

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2562 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับเปลี่ยนการเติมเงินรายเดือนในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในการซื้อของที่จำเป็น จากเดิมที่ต้องนำไปซื้อของจากร้านประชารัฐเท่านั้น เป็นให้สามารถถอนเงินที่ได้รับเป็นเงินสดได้บางส่วน ในช่วง กุมภาพันธ์ – เมษายน 2562 โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ที่ได้รับการเติมเงิน 300 บาท สามารถถอนเงินสดผ่านตู้ ATM และสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ 200 บาท ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ได้รับการเติมเงิน 200 บาท สามารถถอนเงินสดได้ 100 บาท ทั้งนี้ เพื่อให้ซื้อสินค้าอื่นที่จำเป็นนอกเหนือร้านธงฟ้าประชารัฐได้ โดยจะมีผู้สามารถใช้สิทธิ์ได้รวม 14.5 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ต่ออายุโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะให้เงินรายเดือนเพิ่มกับผู้ที่ลงทะเบียนฝึกอาชีพ อีก 200 และ 100 บาท ที่สิ้นสุดไปเมื่อ 31 ธันวาคม ไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ มกราคม – มิถุนายน 2562 โดยเงินในส่วนหลังนี้สามารถกดเป็นเงินสดได้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการของโครงการมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลุดพ้นจากเส้นความยากจน (Poverty Line) หรือมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปีมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น และหลุดพ้นจากความยากจนหรือมีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อปี มีจำนวนถึง 115,116 ราย จากเดิมก่อนพัฒนาที่ไม่มีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายใดมีรายได้เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี สำหรับงบประมาณที่ใช้จะมาจากงบกลางปีงบประมาณปี 62 วงเงิน 4,370 ล้านบาท (เดือนละ 728 ล้านบาท)

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า