ปล่อยโคมลอย 2 วัน พบตกในเขตสนามบินเชียงใหม่ถึง 104 ลูก

งานประเพณียี่เป็ง จ.เชียงใหม่ พบมีการฝ่าฝืนปล่อยโคมลอยนอกเวลา-นอกพื้นที่ ส่งผลให้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พบโคมลอยที่ตกในเขตรันเวย์และหลุมจอด 104 ลูก โชคดีกระแสลมพัดขึ้นเหนือ จึงไม่ส่งผลกระทบในเขต อ. เมือง มาก

วันที่ 24 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นงานประเพณียี่เป็งของ จ.เชียงใหม่ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2561 แม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะออกประกาศจังหวัดฉบับพิเศษขึ้นเพื่อควบคุมดูแลความปลอดภัยจากการปล่อยโคมลอยในงานประเพณียี่เป็ง ห้ามปล่อยโคมลอย และโคมควันในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 และ 23 พ.ย. 61

โดยการปล่อยโคมลอยหรือโคมไฟ ปล่อยได้เฉพาะในช่วงระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. ส่วนโคมควันสามารถปล่อยได้ในวันที่ 22 พ.ย. ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. และในระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย. จะต้องมีการขออนุญาตกับทางจังหวัดเพื่อประสานหน่วยงานทางท่าอากาศยานเตรียมแผนรับมือก่อนวันปล่อยอย่างน้อย 15 วันเท่านั้น

ล่าสุดเช้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้สรุปยอดของซากโคมลอยที่เข้าไปในเขตรันเวย์ และหลุมจอดของอากาศยาน รวมทั้งพื้นที่ในเขตท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน โดยมีโคมลอยตกในเขตท่าอากาศยานในวันที่ 22 พฤศจิกายน จำนวน 19 ลูก วันที่ 23 พฤศจิกายน จำนวน 9 ลูก และวันที่ 24 ฤศจิกายน จำนวน 76 ลูก รวมทั้งสิ้น 3 วัน จำนวน 104 ลูก ซึ่งเป็นจำนวนใกล้เคียงกับปี 2560 ที่มีโคมลอยตกจำนวน 108 ลูกด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม แม้จะสวนทางกับยอดตัวเลขที่มีการขออนุญาตปล่อยโคมลอยในระหว่างวันที่ 22 และ 23 พฤศจิกายน 2561 จากข้อมูลทั้ง 25 อำเภอ ประมาณ 6 หมื่นลูก แต่พบว่าชาวบ้าน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ฝ่าฝืนปล่อยนอกเขตที่ขออนุญาตอีกจำนวนมาก รวมแล้ว 2 วัน น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 แสนลูกด้วยกันในปีนี้ ซึ่งอำเภอแม่ริมขอปล่อยโคมมากที่สุด จำนวน 18,000 ลูก รองลงมาเขตตัวเมืองเชียงใหม่ 10,000 ลูก แต่เป็นโชคดีของชาวเมือง และท่าอากาศยานเชียงใหม่ เนื่องจากพบว่าในช่วงกลางคืนของทั้ง 2 คืน ที่มีการปล่อยโคมลอย พบว่ากระแสลมได้พัดขึ้นทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แทนที่จะพัดเข้ามาทางตัวเมือง ทำให้โคมลอยถูกกระแสลมพัดออกไปจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือแทน จึงเป็นเหตุให้ซากโคมลอยมาตกในเขตตัวเมือง และเขตท่าอากาศยานเชียงใหม่มีจำนวนน้อย

แต่หากกระแสลมพัดเข้าตัวเมือง ซึ่งตามข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่าตามปกติของช่วงฤดูหนาวทิศทางของกระแสลมจะพัดจากทางทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะมีโอกาสสูงที่ซากโคมจากพื้นที่จัดงานปล่อยโคมหลักๆ อย่างแม่ริม และอำเภอเมือง ก็จะพัดมาตกในเขตตัวเมืองและท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าเหตุที่ทำให้พื้นที่อำเภอแม่ริมหลายจุดมีการขอปล่อยโคมลอยจำนวนมาก เนื่องจากมีกลุ่มผู้ประกอบการจัดโปรแกรมทัวร์ และจัดกิจกรรมในลักษณะของงานปล่อยโคมลอยสำหรับนักท่องเที่ยวกันมากขึ้น