‘ปวีณา’ รุดเยี่ยมน้องเอิร์ธ เหยื่อเพื่อนแกล้งหนัก ขังล็อกเกอร์ ฉีดยา จุดไฟเผา

ประเด็นคือ- เล่นเลยเถิด เด็กชาย 3 คนแกล้งเพื่อนโดยการจับเพื่อนขังในล็อกเกอร์ พ่นยาฆ่ายุงเข้าไปและจุดไฟแช็ก ไฟจึงลวกเด็กที่ถูกขังในนั้น อาการบาดเจ็บอยู่ในระดับ 2 ไม่ถึงขั้นพิการ แต่เด็กที่ถูกไฟลวกมีอาการหวาดผวากับไฟ ด้านแม่ร้อง ‘ปวีณาฯ’ เข้าช่วยเหลือด้านรูปคดี

จากกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียนชาย อายุ 14 ปีของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.ชัยนาท เข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรีว่า ลูกชายตนถูกเพื่อนทำร้ายด้วยการขังในล็อกเกอร์เก็บของ แล้วใช้ยาฉีดฆ่าแมลงพ่นเข้าไป จากนั้นจุดไฟแช็กจนเกิดไฟลุกทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปยัง รพ.ชัยนาทนเรนทร จ.ชัยนาท เพื่อเยี่ยมน้องเอิร์ธ นักเรียนชั้น ม.3 ที่ถูกเพื่อนขังในล็อกเกอร์แล้วฉีดย่าฆ่ายุงและจุดไฟ โดยขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ โดยได้สอบถามเหตุการณ์และให้กำลังใจน้องเอิร์ธที่เล่าให้ฟังว่า ทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน และมักจะเล่นหยอกล้อกันเสมอ แต่ครั้งนี้เล่นเลยเถิด ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไม่คิดว่ายาฉีดยุงจะติดไฟ จนตนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเองไม่ได้โกรธเพื่อนๆ เพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ยังหวาดผวากับเรื่องของเปลวไฟอยู่

ส่วนทางด้าน น.ส.กชพรรณ แม่ของน้องเอิร์ธเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นี้ตนเองไม่ได้โกรธเด็กทั้ง 3 คน แต่ไม่ค่อยพอใจกับการให้ความช่วยเหลือของทางโรงเรียน เพราะไม่มีน้ำใจที่จะเยียวยา ต้องรอเงินชดเชยจากพ่อแม่ของเด็กคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งตนมองว่าเป็นการไร้ความรับผิดชอบของผู้บริหาร จึงอยากให้มูลนิธิปวีณาฯ เข้ามาช่วยเหลือ และต้องการย้ายน้องเอิร์ธไปเรียนที่โรงเรียนใน จ.อุทัยธานี บ้านเกิดทันที

นางปวีณากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องเร่งเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กทั้ง 4 คน เพราะยังเป็นเยาวชนด้วยกันทั้งหมด โดยเฉพาะน้องเอิร์ธที่เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ ต้องให้นักจิตวิทยาเด็กเข้ามาดูแลเป็นพิเศษ

ส่วนเรื่องการรักษานั้น ทาง รพ.ชัยนาทนเรนทร รายงานว่า น้องเอิร์ธใช้สิทธิบัตรทองซึ่งไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร ส่วนอาการบาดเจ็บเป็นระดับ 2 ซึ่งถือว่าไม่รุนแรงมากนัก และไม่มีโอกาสที่จะพิการ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอาการแผลดึงรั้ง แต่โดยรวมไม่มีอะไรน่ากังวล

ส่วนการย้ายโงเรียนนั้นดำเนินการได้ตามความต้องการของแม่น้องเอิร์ธ ด้านคดีความ แม่น้องเอิร์ธก็เตรียมที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองชัยนาท ซึ่งการสอบสวนคงต้องกระทำต่อหน้าสหวิชาชีพและผู้ปกครอง ซึ่งคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนเกี่ยวข้อง แต่สามารถสบายใจได้ว่าทุกหน่วยงานให้การช่วยเหลือดูแลเยาวชนทั้ง 4 คนอย่างเต็มที่