ประเด็น – กรณีคุณสาคร สาชีวะ ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว ญาติมารับศพเผาไปแล้ว แต่ปรากฏว่า เขายังมีชีวิตอยู่เพราะถูกสวมบัตรประชาชน จนถึงขณะนี้ครอบครัว ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาใช้คืนหลายๆ หน่วยงานกว่า 2 แสน 5 หมื่นบาท
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่เงินที่ครอบครัวได้มาหลังจากคุณสาครเสียชีวิต ก็นำไปใช้จัดพิธีศพหมดแล้ว แม้แต่ยุติธรรมจังหวัดที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย ก็ยืนยันว่า พวกเขาต้องคืนเงินก้อนนี้
ล่าสุด (วันที่ 21 ธ.ค. 60) ความคืบหน้ากรณีนายสาคร สาชีวะ ชาวบ้านเหล่าฝ้าย อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกออกใบมรณบัตรจากสำนักทะเบียนเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และญาติได้นำศพคนอื่นไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งการเสียชีวิตทำให้ครอบครัวได้รับชดเชยจากสำนักงานประกันสังคม และ เงินประกันชีวิตกว่า 2 แสน 5 หมื่นบาท แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่า นายสาครไม่ได้เสียชีวิตจริง ทำให้ครอบครัวต้องแบกรับภาระคืนเงินชดเชยจำนวนดังกล่าว
นางสาวมินตรา สันตวสี ปฏิบัติหน้าที่แทนยุติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้ศึกษาในข้อกฎหมาย และ ระเบียบการช่วยเหลือ พบว่า ไม่เข้าข่ายที่จะใช้เงินกองทุนยุติธรรมในการช่วยเหลือ จึงได้แนะนำให้ครอบครัวของนายสาครทำหนังสือถึงสำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษ และต้นสังกัดของบริษัทประกันชีวิต ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยต้องใช้การเจรจาเพื่อหาข้อยุติในการชำระเงินคืนกว่า 2 แสน 5 หมื่นบาท
ขณะที่นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอโนนคูณ ได้ส่งหนังสือการยืนยันบุคคลไปยังกรมการปกครองและสำนักงานเขตพระนครเพื่อให้เพิกถอนใบมรณบัตรของนายสาคร ซึ่งหากยกเลิกใบมรณบัตรแล้วนายสาคร จึงจะสามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ได้อีกครั้ง
สำหรับเงินที่ครอบครัวนายสาครได้รับเงินแบ่งเป็นเงินชดเชยจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษจำนวน 9 หมื่นบาท เงินฌาปณกิจ จำนวน 5 หมื่นบาท และ เงินชดเชยจากบริษัทรักษาความปลอดภัย 1 แสน 1 หมื่นบาท โดยเงินทั้งหมดได้ใช้จ่ายในงานศพ