Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อยู่ในโรงพยาบาลยังไม่ปลอดภัย สาวประเภท 2 เข้าโรงพยาบาลระหว่างสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยา กลับมีชายบุกเข้ามาในห้อง ลวนลามกว่า 10 นาที จนเจ้าตัวพยายามกดโทรศัพท์เรียกตำรวจ ยังไม่ยอมหยุดจนหัวหน้าพยาบาลต้องมาพาตัวออกไป

จากกรณีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “พะเพลง สมายด์” ได้โพสต์วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 18 วินาที และภาพนิ่ง อีก 4 ภาพ ลงในกลุ่ม “บอกข่าวแจ้งเหตุ ช่วยเหลือกันคนภูเก็ต” ซึ่งเป็นภาพขณะที่ได้พยายามขัดขืนหลังถูกชายร่างใหญ่เข้ามาลวนลามในห้องพักของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เวลา 17.00 น.

จากการสอบถามไปยังผู้โพสต์ หรือ น้องพะเพลง สาวประเภทสองผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ตนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและแพทย์ได้ฉีดยา 3 เข็ม คาดว่าเป็นยาคลายเส้นกับยานอนหลับซึ่งมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้ร่างกายอ่อนล้าและง่วงนอน ขณะนั้นแฟนหนุ่มซึ่งเป็นคนเฝ้าไข้ต้องการกลับบ้านไปเปลี่ยนชุด จึงจับให้ตนนอนตะแคงก่อนจะเดินออกไปและไม่มีใครอยู่ในห้อง

ต่อมาได้มีชายคนก่อเหตุเดินเข้ามา และปิดผ้าม่านก่อนเริ่มลวนลามด้วยการลูบไล้ ขยำหน้าอกจนรู้สึกเจ็บ ตนพยายามดิ้นรนแต่ด้วยความที่ร่างกายไม่มีแรงจึงไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวใช้เวลาลวนลามอยู่ประมาณ 10 นาที ตนจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ด้วยปุ่มลัดเพื่อเป็นโหมดกล้องและถ่ายวีดิโอไว้สั้นๆ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ตนจึงกดโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 191 เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่และพยาบาลเข้าช่วยเหลือ เมื่อพยาบาลเข้ามาได้ห้ามชายคนดังกล่าวและพยายามกันออกไป แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังจะไม่ยอมหยุด จนหัวหน้าพยาบาลต้องมาพาตัวออกไปสงบสติอารมณ์

จากนั้นก็พาชายคนดังกล่าวกลับเข้ามาขอโทษ และทางพยาบาลได้รายงานเหตุการณ์ไปยังผู้อำนวยการโรงพยาบาล และแจ้งให้ทางญาติแจ้งความดำเนินคดี ตนจึงให้บิดาเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองภูเก็ตในวันรุ่งขึ้น (6 มี.ค.) และในวันนี้ (8 มี.ค.) ได้ให้มารดาเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม

“เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจตนเองมาก เพราะนอกจากป่วยไข้ไม่สบายแล้วยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ขนาดตนเองเป็นสาวประเภท 2 ยังโดนแบบนี้ หากเป็นหญิงสาวคนอื่นๆ จะอันตรายแค่ไหน เคสนี้จึงนับว่าเป็นคดีตัวอย่าง ซึ่งยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคม จากการข้อมูลทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนรับจ้างเฝ้าไข้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล” น้องพะเพลงกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.อนุวรรตน์ รักษายศ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าของคดี ที่เดินทางมาพบผู้เสียหายเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ระบุว่า เตรียมออกหมายเรียกชายคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา

ต่อมา เวลา 15.00 น.นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมด้วยผู้บริหาร หัวหน้าพยาบาลและผู้เกี่ยวข้อง ได้แถลงชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นสาวประเภท 2 ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ด้วยอาการหายใจเร็วและเหนื่อย มีอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังมีอาการเกร็งร่วมด้วย

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ผู้ที่มาเฝ้าไข้ผู้ป่วยเตียงที่อยู่ใกล้ๆ กัน ได้เข้าไปลวนลามผู้ป่วยคนดังกล่าว โดยการจูบและลูบคลำบริเวณหน้าอก ซึ่งขณะนั้นญาติของผู้ป่วยยังไม่มาเฝ้าไข้ทำให้ต้องอยู่คนเดียว อาการของผู้ป่วยขณะนั้น คือมีผื่นตามลำตัวจึงมีการฉีดยาแก้แพ้ จึงทำให้มีอาการซึมๆ”

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้ก่อเหตุเป็นญาติของผู้ป่วยเตียงที่อยู่ใกล้ๆ กัน เป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี ด้วยปกติทางโรงพยาบาลมีนโยบายว่า สามารถให้ญาติเข้าไปนอนเฝ้าไข้ได้เตียงละ 1 คน เนื่องจากอัตรากำลังของโรงพยาบาลไม่เพียงพอ และตึกที่เกิดเหตุเป็นตึกอายุรกรรมชายมีพยาบาล 2 คน และผู้ช่วยพยาบาล 2 คน หลังจากที่น้องได้ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ ทางพยาบาลได้แจ้งให้กับหัวหน้าเวรพยาบาลทราบ และรีบเข้ามาช่วยเหลือ พบกับผู้ต้องสงสัยจึงได้เรียกมาสอบถาม และยอมรับว่าเป็นคนทำอนาจารผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยเล่ารายละเอียดทั้งหมด เนื่องจากมีอาการมึนเมา หลังจากฟังรายละเอียดแล้วทางหัวหน้าเวรก็นำชายดังกล่าวไปขอโทษผู้ป่วยที่ถูกลวนลาม ซึ่งก็ได้เข้ามาขอโทษด้วยการยกมือไหว้ ทราบว่าผู้ก่อเหตุทางญาติของผู้ป่วยรายหนึ่งจ้างมาเฝ้าไข้ และที่ผ่านมาเคยมารับเฝ้าไข้ซึ่งเป็นการติดต่อกันเองไม่ได้ขึ้นกับทางโรงพยาบาล

“หลังจากที่มีการขอโทษกันแล้ว ด้วยเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับผู้ป่วยคนดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นผู้ชายแต่หน้าตาสวย พยาบาลหัวหน้าตึกจึงได้ทำการย้ายไปอยู่ตึกสงฆ์แทน ซึ่งทางญาติก็ยังมีความไม่พอใจ และทราบว่ามีการไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว โดยต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นในวันรุ่งขึ้น (6 มี.ค.) ทางพยาบาลหัวหน้าตึกก็ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ พร้อมสั่งห้ามเข้ามาทำหน้าเฝ้าผู้ป่วยในโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งมีการแจ้งให้หัวหน้าตึกอื่นๆ รวมทั้งผู้บริหารทราบ เพราะทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียง และได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวเช่นกัน ในข้อกล่าวหา ทำอนาจารในสถานที่ราชการ (โรงพยาบาล)ด้วย เนื่องจากสังคมรับทราบ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรที่จะเกิดขึ้น”

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของมาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทางคณะผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องได้มีการประชุมและทบทวนหาสาเหตุ รวมถึงกำหนดมาตรการในการป้องกัน โดยจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมารับเฝ้าไข้อย่างเข้มข้น

จากนั้นเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ชื่อนายพิชิต พิมพ์หอม อายุ 57 ปี มาสอบปากคำ เจ้าตัวรับสารภาพว่ามีอาชีพรับจ้างเฝ้าไข้ผู้ป่วยเตียงข้างๆ เห็นผู้เสียหาหน้าตาดี ประกอบกับมีอาการมึนเมา จึงเข้าไปกอดจูบและจับหน้าอก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหากระทำอนาจารในสถานที่ราชการ และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า