ประเด็นคือ – ทักษิณ ชินวัตร ส่งทนายความยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอให้ทบทวนการแจ้งข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ด้านป.ป.ช. มีมติรื้อคดีตามกฎหมายใหม่ 2 คดีที่นายทักษิณ ตกเป็นจำเลย คดีให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้รัฐบาลเมียนมา และ หวยบนดิน
วันนี้ (12 ต.ค.60) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติ สั่งรื้อ 3 คดีกล่าวหาทุจริต ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำหน่ายคดีชั่วคราว เมื่อปี 2551 เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนี ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคดีต่อได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายใหม่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ให้อำนาจศาลพิจารณาลับหลังจำเลยไว้ จึงเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ฟ้องคดีที่สามารถรื้อคดีขึ้นมาใหม่ได้
สำหรับ 3 คดีที่จะรื้อ ประกอบด้วย 2 คดีแรก เป็นคดีกล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติปล่อยกู้รัฐบาลเมียนมา วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของเมียนมา เพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ จากบริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคดีออกสลากหวยบนดินโดยมิชอบ อีกคดี เป็นกล่าวหาทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ที่ยังหลบหนี โดยหลังจากนี้สำนักกฎหมาย จะรวบรวมเอกสารหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลต่อไป
ด้าน นายทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งทนายความ เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ให้ทบทวนคำสั่งการสั่งฟ้อง ในข้อหา ดูหมิ่นเบื้องสูง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยพล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ที่เดินทางมาพร้อมกับทนายความของนายทักษิณ ระบุว่า คดีนี้เกิดนอกราชอาณาจักร โดยดร.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ ดังนั้น จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วม โดยพนักงานอัยการ และการมายื่นหนังสือ เพื่อให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมในคำร้องคดีนี้ให้ครบถ้วน