ผู้นำตุรกี ลั่น ‘คาชูจกิ’ นักข่าวซาอุฯ ถูกวางแผนสังหารล่วงหน้าหลายวัน

ประธานาธิบดีตุรกี เผยคดีฆาตกรรมนักข่าวซาอุฯ หลักฐานแน่นหนา วางแผนสังหารล่วงหน้าหลายวัน

วันนี้ (23 ต.ค. 61) นายเรเจป ไตยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายจามาล คาชูจกิ นักข่าวชื่อดังชาวซาอุดิอาระเบีย ที่มักวิจารณ์รัฐบาลบ้านเกิด ถูกฆาตกรรมในสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูล ต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า มีการวางแผนล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน พร้อมเรียกร้องให้ทางการซาอุฯ ส่งตัวผู้ต้องสงสัย 18 คน มาดำเนินคดีในตุรกี

เรเจป ไตยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี / Presidency of the Republic of Turkey

นายเออร์โดกัน ยืนยันมีหลักฐานแน่นหนาที่บ่งบอกว่า การสังหารคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยฉับพลัน แต่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยทีมสังหารได้เดินทางมาจากซาอุดิฯ ซึ่งมีนายทหารระดับสูงยศนายพลรวมอยู่ด้วย

ก่อนหน้าหนึ่งวันที่นายคาชูจกิจะถูกสังหาร มีเจ้าหน้าที่ซาอุฯ 3 คน ออกสำรวจป่าโดยรอบอิสตันบูล และก่อนก่อเหตุได้มีการปิดกล้องวงจรปิดบริเวณสถานกงสุลด้วย

นอกจากนี้ ผู้นำตุรกียังเรียกร้องให้ซาอุฯ ให้คำตอบด้วยว่า ศพของนายคาชูจกิอยู่ที่ไหน และใครเป็นผู้บงการ

สำหรับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักข่าวพลัดถิ่น ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวเข้าไปติดต่อเรื่องเอกสารรับรองการหย่าจากภรรยาคนก่อน ในสถานกงสุลซาอุฯ ในอิสตันบูล ประเทศตุรกี กลายเป็นเหตุสะเทือนใจที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้

นับตั้งแต่การเสียชีวิตของนายคาชูจกิ เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการตุรกี และซาอุดิอาระเบีย ได้ออกมาระบุในลักษณะคนละทิศคนละทางกัน โดยทางซาอุฯ อ้างว่า นายคาชูจกิเดินทางออกจากสถานกงสุลไปแล้ว โดยใช้ประตูด้านหลัง ขณะที่ตุรกีระบุว่า นักข่าวชื่อดังถูกฆ่าหั่นศพภายในสถานกงสุล ยืนยันได้จากเสียงบันทึกการสนทนา

จามาล คาชูจกิ คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์

อย่างไรก็ตาม ในภายหลัง ซาอุฯ ได้ออกมายอมรับ นายคาชูจกิเสียชีวิตภายในสถานกงสุล โดยนายอาเดล อัล-จูเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ กล่าวว่า เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่นักข่าวรายนี้ถูกสังหารโดยกลุ่มบุคคล ซึ่งพยายามปิดบังความผิดที่ทำไว้

รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายคาชูจกิ รวมถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้เช่นกัน

นายจูเบร์ ยังให้คำมั่นว่า จะดำเนินการสอบสวนคดีนี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ได้มีการจัดเตรียมกลไกและวิธีการต่างๆ เพื่อรับประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก

สำหรับคดีฆาตกรรมนายคาชูจกิ ยังคงทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะหลายฝ่ายมุ่งเป้าไปที่เจ้าชายซัลมาน หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรอาหรับ และเป็นรากฐานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ในการต่อกรกับอิหร่าน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารโหดนี้ เนื่องจากพบว่า ผู้ต้องสงสัยที่ทำภารกิจสังหารและหั่นศพ เป็นคนใกล้ชิดกับพระองค์

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย / AFP

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับวอชิงตันโพสต์ว่า หากทางการซาอุดิอาระเบีย อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมครั้งนี้ สมควรถูกลงโทษอย่างรุนแรง แต่สหรัฐฯ ก็ยังไม่ระงับการขายอาวุธให้กับซาอุฯ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังโทรศัพท์สายตรงไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด กษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และส่ง นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปเข้าเฝ้าเพื่อหารือในประเด็นนี้ด้วย

อย่างไรแล้ว การเสียชีวิตของนายคาชูจกิ ทำให้หลายชาติไม่พอใจ ที่ทางการซาอุฯ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ขณะที่รัฐบาลซาอุฯ ยืนยันว่า จะไม่ตอบโต้ชาติอื่นด้วยการใช้น้ำมันเป็นเครื่องมือ หากต้องถูกคว่ำบาตรจากกรณีดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• นักข่าวซาอุฯ “คาชูจกิ” หายตัวในสถานกงสุล คาดถูกฆ่าหั่นศพ