ผู้นำเม็กซิโก เมินใช้เครื่องบินประจำตำแหน่ง แม้ต้องเดินทางล่าช้า

ว่าที่ประธานาธิบดีเม็กซิโก ปฏิเสธที่จะใช้เครื่องบินประจำตำแหน่ง แม้จะติดอยู่ในเครื่องบินพาณิชย์หลายชั่วโมง ตามที่ตัวเองเคยลั่นวาจาไว้ว่าจะขายเครื่องบินหรู

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ( Andres Manuel Lopez Obrado ) วัย 64 ปี ที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง “ประธานาธิบดีเม็กซิโก” ในเดือนธันวาคมนี้ ได้ปฏิเสธที่จะใช้เครื่องบินประจำตำแหน่ง หลังจากเขาต้องไปติดอยู่ภายในเครื่องบินพาณิชย์ เที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังเมืองชายหาดฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ล่าช้านาน 4 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจาก สภาพอากาศในกรุงเม็กซิโกซิตี้ไม่ดี เพราะอยู่ในช่วงหน้าฝน

“ผมไม่เปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้แน่นอน ผมไม่มีวันใช้เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี ผมคงจะตายด้วยความอับอาย หากต้องใช้เครื่องบินหรูราคาแพง ในขณะที่ประเทศยังเต็มไปด้วยคนยากจน”  รายงานข่าวระบุว่านี่เป็นคำกล่าวของ นายโอบราดอร์

สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า ระหว่างการพบปะกับประชาชนที่ให้การสนับสนุน นายโอบราดอร์ ได้กล่าวถึงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ ระหว่างแคนาดา สหรัฐ และเม็กซิโกได้ภายในสิ้นปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า นายโอบราดอร์ ผู้นำพรรคโมเรนา พรรคฝ่ายซ้ายต่อต้านอำนาจเก่า พลิกโฉมการเมืองเม็กซิโก ด้วยการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง เป็นประธานาธิบดีที่มีแนวคิดฝ่ายซ้ายคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศเม็กซิโก

นายโอบราดอร์ เคยประกาศว่า จะขายเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดี รวมทั้งจะเปลี่ยนทำเนียบประธานาธิบดี ให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม เขายังไม่เห็นด้วยกับ โครงการสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ ที่มีมูลค่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 420,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานปัจจุบัน

เศรษฐกิจของเม็กซิโก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการคอร์รัปชัน ทำให้บริษัทหลายรายถอนการลงทุน เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ชาวเม็กซิกันจำนวนมากไม่พอใจ ประธานาธิบดีคนก่อน “เปนญา นีเอโต” ที่ไม่ได้ดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าที่ควร

ภาพจาก @ABCWorldNews