ชาวเชียงใหม่ และโลกโซเชียลประกาศตามหาคนหาย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านไปสามวันที่ขึ้นอันดับ 1 ของโลกเมืองที่มีมลพิษสูงที่สุด แต่ชาวบ้านมองว่า ไร้เงาผู้ว่าฯ ออกมาบัญชาแก้ไขปัญหา ล่าสุดคืนที่ผ่านมาผู้ว่าทำคลิปชี้แจงสถานการณ์ ภริยา และหน่วยงานราชการช่วยกันแชร์ให้
จากสถานการณ์หมอกควัน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เข้าสู่ช่วงวิกฤติหนักที่สุดจนขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก เมืองที่มีค่ามลพิษในอากาศมากที่สุดติดต่อกัน 3 วันแล้ว เมื่อวานนี้ชาวเชียงใหม่ และชุมชนในโลกออนไลน์ ได้ทวงถามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะพ่อเมืองเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ว่าในช่วงที่เกิดปัญหาวิกฤติหนักที่สุดแต่ไม่พบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาสั่งการหรือดำเนินการใดๆ จนชาวโซเชียล ได้ลงเฟซบุ๊ก ประชดประกาศตามหาคนหายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารย์การทำงาน
อย่างเช่น “หมอหม่อง” หรือนายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นนักดูนกและนักอนุรักษ์ชื่อดัง ที่เคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อม ออกมาโพสต์ประกาศตามหาคนหาย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีคนแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ได้จัดกิจกรรม บนศาลช้าง แก้ฝุ่นควัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก พร้อมกับโพสต์ข้อความว่า “เมื่อผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่สามารถช่วยได้ ก็คงต้องเป็นภาระสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นหนทางสุดท้ายแล้วแหละ
“ปัญหาฝุ่นควันซึ่ง เป็นมลพิษ โดยเฉพาะ PM 2.5 ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวาน วานซืนหรือวันนี้ มันเกิดขึ้นเเละเป็นปัญหามาเป็นเดือนๆแล้ว ผู้มีอำนาจหรือภาครัฐในจังหวัด ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ (อย่าว่าแก้ไขปัญหาให้หายไปเลย ให้มันลดลงก็ยังยาก)
“แล้วผลลัพธ์คืออะไร ทุกคนในเชียงใหม่ต้องอยู่ในภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเช่นนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ นี่ก็ได้ที่ 1 เมืองมลพิษของโลกมาสองวันติดกันแล้ว ดังนั้นจึงขอให้มีมาตรการเด็ดขาดและทันทีเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
“ในส่วนมหาวิทยาลัย ก็จะต้องมีส่วนเข้ามาแก้ไข และช่วยเหลือ น.ศ. ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนักศึกษาเข้ายื่นหนังสือถึงมหาวิทยาลัยแล้ว และล่าสุดมหาวิทยาลัยก็ได้จัดซื้อหน้ากากอนามัยชนิด N 95 แจกจ่าย น.ศ. มีการจัดอบรมให้ความรู้ ในวันที่ 19 มีนา ซึ่งอาจไม่ทันการ อีกทั้งจะมีการมอบเป็นพิธีและถ่ายรูปร่วมกันอีก คิดแล้วเหนื่อยใจ
“แต่อย่างไรในขั้นต้นเราก็จะต้องดูแลตัวเอง เป็นประการแรกก่อน เพราะสุขภาพเป็นของตัวท่านเอง ประการต่อมาก็คงจะต้องเป็นผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหา โดยต้องแก้ไขอย่างเด็ดขาด และทันที ไม่เช่นนั้นเชื่อได้ว่าจะมีคนล้มป่วยมากขึ้นอย่างแน่นอน ประการสุดท้ายเป็นหน้าที่ของชาวเชียงใหม่ และทุกๆ คน ที่จะช่วยกันลดการก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นในระยะยาว”
โดยหลังจากที่ มีการแชร์ตามหาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ในช่วงค่ำวันที่ 12 มี.ค. พบว่า ทางกลุ่มไลน์ของส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ และเฟซบุ๊กของภริยาของท่านผู้ว่าเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความ พร้อมกับคลิปภาพของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงสถานการณ์หมอกควัน และแจ้งกับประชาชนว่า ท่านไปร่วมประชุม ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 ที่ กอง บก.กองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยข้อความชี้แจงสถานการณ์ว่า
“สภาพอากาศเริ่มมีภาวะหมอกควันสูง 2 วันนี้ เนื่องจากลมบน และลมล่างที่พัดสู่ภาคเหนือตอนบนมีกำลังอ่อน ประกอบกับหมอกควันที่มาจากด้านใต้ของจังหวัด ที่มาจากต่างพื้นที่ และหมอกควันจากแนวชายแดน ได้พัดเข้าสู่เชียงใหม่ และการลักลอบเผาป่า ซึ่งเกิดขึ้นในบางพื้นที่ของจังหวัด ส่งผลให้เกิดหมอกควันหนาแน่น ไม่กระจายตัว
“ในมาตรการแก้ไขได้ดำเนินการทุกๆ ด้าน การห้ามเผาป่า และใช้มาตรการตาม กม.อย่างจริงจัง การสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ทุกคนต้องร่วมมือกัน การลดภาวะฝุ่นละอองโดยการพ่นละอองน้ำในอากาศ การใช้กติกาหมู่บ้าน ประชาคม ทุกหมู่บ้านช่วยกันดูแล ป้องกัน การใช้มาตรการปรับเปลี่ยนอาชีพ การสนับสนุนงบประมาณให้แก่ จนท.ในการลาดตะเวนดูแลพื้นที่ป่าและการจ้าง /การใช้อาสาสมัครชาวบ้านร่วมลาดตะเวนตรวจตราพื้นที่ การสนธิกำลัง จนท.ทุกฝ่ายในการป้องกัน และแก้ไขปัญหา รวมทั้งการเข้าดับไฟป่า และอื่นๆ
“ในสัปดาห์นี้ทีมจังหวัดจะร่วมกับอำเภอจะมีการชี้แจง ลงแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทุกอำเภอ สถานการณ์ต่อไปคาดว่าภาวะอากาศจะปรับตัวใน 2 หรือ 3 วันข้างหน้าอากาศจะลอยต้วขึ้นทำให้หมอกควันกระจายตัวขึ้นอากาศจะดีขึ้น”