ผู้ว่าฯ ตรัง เร่งรัด ! รื้อรีสอร์ทหรูบนเกาะมุก ตามคำสั่งศาล

ประเด็นคือ – ผู้ว่าฯ ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ทหรูริมชายหาด บนเกาะมุก โดยเร่งรัดให้มีการรื้อถอนตามคำสั่งศาล หลังให้เวลามานานกว่า 1 ปี พบลักลอบให้ นทท. เข้าพัก

วันที่ 28 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสริมยศ สมมั่น หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายอาคม ยุทธนา ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรัง นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และนายสมนึก กุนหลัด หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง.2 (วังวิเศษ-สิเกา) ลงพื้นที่เกาะมุก ชาลี บีช รีสอร์ท หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูริมชายหาดที่มีกว่า 80 ห้อง

โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาสั่งลงโทษปรับ และจำคุกจำเลย ซึ่งเป็นบริษัทและเจ้าของรวม 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา และสั่งให้รื้อถอนทรัพย์สินออกไปจากที่ดินแปลงดังกล่าว หลังพิจารณาแล้วเห็นว่า มีการบุกรุกก่อสร้างรีสอร์ทโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ บนที่ดินของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เนื้อที่กว่า 2 งาน และที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่กว่า 43 ไร่

ทางอุทยานฯ และกรมป่าไม้ได้ให้เวลาจำเลยในการรื้อถอนทรัพย์สินออกไปเป็นเวลามากว่า 1 ปี แล้ว กลับพบว่ามีการรื้อถอนรีสอร์ทที่ก่อสร้างบนที่ดินของอุทยานฯ ไปเพียงจำนวน 5 หลัง เท่านั้นจากทั้งหมด 8 หลัง ส่วนอีก 3 หลัง และรีสอร์ทที่ก่อสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมดอีกประมาณ 80 หลัง ยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอน ปิดเพียงที่ทำการ และอาคารห้องอาหารเท่านั้น แต่ยังลักลอบดำเนินกิจการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพักอาศัย และปิดกั้นเส้นทางสาธารณะของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจนมีการร้องเรียนตามมา

ล่าสุด นายเสริมยศ สมมั่น หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้อำนาจศาลบังคับคดีห้ามดำเนินการใดๆ บนที่ดิน และเตรียมเข้ารื้อถอนในเร็วๆ นี้ พร้อมกับเตรียมจะเสนอให้มีการยุบรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ดังกล่าว รวมเป็นของกรมอุทยานฯ ซึ่งจะต้องออกเป็นประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ เพิ่มเติม เนื่องจากง่ายต่อการดูแลพื้นที่

จากนั้นคณะได้เดินทางไปเยี่ยมตัวแทนลูกจ้าง ผู้ประกอบการ โรงแรมอนันตรา หมู่ที่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว ริมชายหาดฉางหลาง ที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์และรื้อถอนทรัพย์สิน เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยจะให้โอกาสจำเลยในการขนย้ายทรัพย์สินและช่วยเหลือพนักงานที่มีอยู่กว่า 200 คน ที่จะต้องตกงาน

นายเสริมยศ สมมั่น หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่เกาะมุกเป็นคดีที่ศาลฎีกาตัดสินและคดีสิ้นสุดแล้ว พื้นที่ป่าถูกบุกรุกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ พื้นที่ป่าอุทยานฯ จำนวน 2 งานเศษ มีรีสอร์ททั้งหมด 8 หลัง รื้อถอนไปแล้วจำนวน 5 หลัง คงเหลือ 3 หลัง รอการรื้อถอน กับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวนกว่า 43 ไร่ ซึ่งมีรีสอร์ทประมาณ 80 หลัง

ในส่วนของพื้นที่ป่าอุทยานฯ เข้มงวดมากกว่า สามารถใช้มาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ รื้อถอนได้เลย แต่ในส่วนของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จะต้องใช้วิธีการบังคับคดี ซึ่งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ให้โอกาสมามากกว่า 1 ปีแล้ว แต่กลับลักลอบเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว และปิดเส้นทางเข้าออกของชาวบ้าน หลังจากนี้จะต้องใช้วิธีบังคับคดีและหน่วยงานป่าไม้ทั้ง 2 จะเข้าทำการรื้อถอนเองในเร็วๆ นี้

ส่วนโรงแรมอนันตรา ซึ่งเป็นโรมแรมขนาดใหญ่ มีพนักงานกว่า 200 คน ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องให้โอกาสให้ฝ่ายจำเลยมีเวลาในการเตรียมตัว เตรียมงาน หางานให้กับพนักงาน แต่สุดท้ายก็ต้องรื้อถอนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะขณะนี้กฎหมายอุทยานฯ ไม่เปิดช่องให้สามารถรองรับอาคารเหล่านี้ได้ ซึ่งขณะนี้มีความพยายามในการปรับแก้กฎหมาย แต่ยังไม่แล้วเสร็จ และไม่ทราบว่า สนช.จะเห็นชอบหรือไม่ ดังนั้น ทางกรมอุทยานฯ จำเป็นต้องดำเนินการรื้อถอน แม้จะเสียดายอาคารโรงแรม และรีสอร์ทต่างๆ ก็ตาม