ผู้ว่าฯ พัทลุง เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน เร่งตรวจสอบการระบายน้ำ

ประเด็นคือ – ผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง ลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อตรวจสอบระบบการระบายน้ำ เตรียมรับสถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ 31 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ได้มีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาถึงสภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ในระยะนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้ จ.พัทลุง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในร่องฝนดังกล่าว และทุกปีมักจะมีฝนตกหนักและเกิดสภาวะน้ำท่วมในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม โดยอาจสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง พร้อมด้วยนายสุเมธ บุญยก นายกเทศมนตรี เมืองพัทลุง และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พัทลุง โครงการชลประทานพัทลุง ได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อตรวจสอบระบบระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด โดยพบว่าท่อระบายน้ำบางส่วนมีขนาดเล็กเกินไป นอกจากนี้ยังมีการอุดตันจากเศษขยะ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก ประกอบกับมีพื้นที่บางแห่งประชาชนทำการถมที่ ทำให้คลองส่งน้ำธรรมชาติที่มีอยู่เดิมมีขนาดเล็กลง และบางแห่งถูกถมจนมิดทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านได้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ทางเทศบาลเมืองพัทลุงได้ทำการขุดลอกคูคลองสายต่างๆ ในเขตเทศบาล ทำให้สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น ทั้งยังได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ตามจุดต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างทันท่วงที

ขณะที่นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย เพราะถือเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนมายาวนาน ซึ่งโดยปกติได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.พัทลุง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วนในช่วงที่มีภาวะความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยในช่วงหน้าฝน จึงได้บูรณาการศักยภาพจากทุกภาคส่วนเข้ามาดูแล เพื่อให้สามารถป้องกัน ช่วยเหลือ และเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมืออย่างเต็มที่แล้ว แต่ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันดูแล มิให้มีขยะและเศษวัสดุต่างๆ เข้าไปอุดตันในท่อระบายน้ำ และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด