ผู้ว่าฯ 76 จังหวัดทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562

ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด พลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำน้ำสรงพระมุรธาภิเษกและน้ำอภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

วันนี้ (6 เม.ย.2562) ตามเวลาฤกษ์ 11.52 น. เริ่มพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อนำไปทำน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัด รวม 107 แหล่งน้ำ จะใช้เป็นน้ำอภิเษก อาทิ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของ จ.สุพรรณบุรี ที่ประกอบด้วย สระแก้ว สระคา สระยมนา และสระเกษ รวมทั้งน้ำจากแม่น้ำ 5 สายที่เรียกว่า เบญจสุทธคงคา ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำราชบุรี จะนำมาเป็นน้ำสรงพระมุรธาภิเษก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำ

โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระ 4 แห่งของ จ.สุพรรณบุรี ร่วมกับนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามโบราณราชประเพณี

หลังเสร็จสิ้นพิธีพลีกรรมตักน้ำ น้ำศักดิ์สิทธิ์ในขันน้ำสาครจะถูกอัญเชิญไปเก็บไว้ในวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของ จ.สุพรรณบุรี เพื่อรอทำพิธีทำน้ำอภิเษก

สำหรับ จ.จันทบุรี ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 3 แหล่ง โดยที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ คือ ธารนารายณ์ น้ำตกคลองนารายณ์บนเขาสระบาป ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชน ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชน จิตอาสา ร่วมพิธีจำนวนมาก แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สระแก้ว ตำบลเขาพลอยแหวน อำเภอท่าใหม่ นายพงษ์พัฒน์ วงษ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธาน และ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดพลับ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน

จ.ระนอง จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำแร่เมืองระนอง ที่บริเวณบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อ.เมือง จ.ระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน กลุ่มพลังมวลชน และประชาชนชาวระนองเข้าร่วมในพิธี โดยพร้อมเพรียงกัน

โดยพิธีเริ่มในเวลา 11.19 น. ประธานในพิธีถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวงเพื่อบูชาเทพยดา เทพารักษ์ผู้ดูแลรักษาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ประธานในพิธีอ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ จากนั้นเวลา 11.52 น. ประธานในพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร และเชิญขันน้ำสาครขึ้นขบวนรถที่เตรียมไว้ และมีขบวนแห่ไปยังวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง โดยตลอดเส้นทางมีพี่น้องประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองโบกธงต้อนรับขบวนน้ำศักดิ์สิทธิ์

จ. เลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ “ถ้ำเพียงดิน” วัดถ้ำผาปู่ ตำบลนาอ้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย

สำหรับ “ถ้ำเพียงดิน” วัดถ้ำผาปู่ ตำบลนาอ้อ จังหวัดเลย ห่างจากตัวเมืองเลย ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่เงียบสงบ เป็นสำนักวิปัสสนาและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและศาสนาที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะสายปฏิบัติวิปัสสนา นอกจากนี้ภายในวัดยังมีทรัพยากรท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ฝูงค่างแว่น ถ้ำต่างๆบนเขานิมิต รวมทั้ง บ่อน้ำในถ้ำผาปู่ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์

จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่บ่อน้ำทิพย์ ภายในถ้ำน้ำทิพย์ วัดเขาถ้ำม้าร้อง หมู่ที่ 1 บ้านฝ่ายท่า ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน โดย ดร.พัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายตุลาการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธี ท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าร่วมกว่า 3,000 คน

เขาถ้ำน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดถ้ำเขาม้าร้อง เป็นภูเขาหินปูน มีโพรงหรืออุโมงค์ กลายเป็นถ้ำมากมายอยู่ภายใน เมื่อกระทบแสงไฟจะเป็นประกายระยิบระยับ มีถ้ำสำคัญคือ ถ้ำบ่อน้ำทิพย์ ชาวบ้านเชื่อว่า น้ำในบ่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีความใสสะอาดตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะแห้งแล้งเพียงไร น้ำในบ่อน้ำทิพย์ก็ไม่เคยแห้ง นอกจากนี้ น้ำในบ่อน้ำทิพย์เป็นน้ำบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ที่เคยนำไปประกอบพระราชพิธีสำคัญ คือ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 ณ พระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ครบ 6 รอบ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต

จ.ลำปาง นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อน้ำเลี้ยงพระนางจามเทวี ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพียง จากนั้นเชิญขันน้ำสาครและที่ตักน้ำไปยังรถ และขบวนรถเคลื่อนไปยังวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง เพื่อรอทำน้ำอภิเษก ในวันที่ 8 เมย.62 และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เมย.62

จ.ปราจีนบุรี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันน้ำสาคร (ปริมาณร้อยละ 80 ของขันน้ำสาคร) บ่อน้ำหน้าโบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี และนายสัญชัย ขจรเวหาศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ จุดที่ 2 บริเวณโบราณสถานสระแก้ว ตำบลโคกปีป อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี

จ.ปัตตานี พิธีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 จุด โดยนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประกอบพิธีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ สระวังพลายบัว หมู่ที่ 5 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นแอ่งน้ำกว้างประมาณ 8 เมตร ยาว 12 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร มีธารน้ำ ที่มีต้นน้ำจากภูเขาสันกาลาคีรี ตามประวัติเมื่อประมาณปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีผู้พบช้างพลายเชือกหนึ่งที่แอ่งน้ำนี้ ได้แสดงอภินิหารหลายประการ เช่น หายตัวได้ พอช้างหายตัวก็มีดอกบัวผุดขึ้นในแอ่งน้ำ แล้วจมหายไป ชาวบ้านจึงเรียกแอ่งน้ำนี้ว่า สระวังพลายบัว ชาวบ้านนับถือว่า สระนี้มีรุกขเทวดารักษาอยู่

จุดที่ 2 นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประกอบพิธีพิธีพลีกรรมตักน้ำแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์บ่อไชย ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลคอกกระบือ อำเภอปานาเระ อยู่บนยอดภูเขาไชย รูปบ่อเป็นรอยเจาะลึกลงไปในหิน อยู่ห่างออกไปจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์บ่อทอง ประมาณ 500 เมตร มีน้ำลึกประมาณ 2 คืบ บ่อมีสัณฐานกลม ไม่ปรากฏประวัติ ราษฎรถือว่าเป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ อยู่ทางทิศใต้ของตำบลคอกกระบือ เรียกกันว่า เขาบ่อไพร บนยอดเขามีบ่อน้ำ ทีเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ รัชกาล 9 ขึ้นครองราชย์ ก็ได้นำน้ำจากบ่อแห่งนี้ ไปใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษกด้วย

จุดที่ 3 นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประกอบพิธีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์บ่อทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลคอกกระบือ อำเภอปานาเระ เป็นบ่อที่เกิดในหิน อยู่บนเขาช่องคุด รูปร่างบ่อมีลักษณะเป็นรอยเจาะลงไปในหินแผ่นเดียว ปากบ่อเป็นรูปตราอาร์ม กว้าง 1 ศอก ลึก 2 ศอก และระดับน้ำลึก 3 คืบ มีน้ำตลอดปี ไม่ปรากฎประวัติ ราษฎรถือว่าเป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ ห่างจากตัวจังหวัด 44 กม. จากเชิงเขาต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมประชาสัมพันธ์