ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ โรคมะเร็งจะคร่า 9.6 ล้านชีวิตในปีนี้

AFP Photo

หน่วยงานระหว่างประเทศด้านการวิจัยโรคมะเร็งกล่าวว่า หนึ่งในสามของการเกิดโรคมะเร็งในผู้ป่วยใหม่เพราะการสูบบุหรี่และโรคอ้วน

สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า 1 ใน 5 ของผู้ชายและ 1 ใน 6 ของผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคมะเร็ง โดยอ้างอิงจากตัวเลขล่าสุดขององค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (IARC) ระบุว่า 1 ใน 8 ของผู้ชายและ 1 ใน 11 ของผู้หญิงต้องเสียชีวิตจากโรคร้ายชนิดนี้

จากการประมาณการล่าสุด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เกิดขึ้น 18.1 ล้านคน และเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 9.6 ล้านคนในปีนี้

สำหรับโรคมะเร็งมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตของแต่ละคนและวัฒนธรรมสมัยใหม่ที่มีอิทธิพล เช่น มะเร็งปอดเกิดจากการสูบบุหรี่ ในขณะที่สาเหตุของมะเร็งเต้านมมาจากปัจจัยโรคอ้วนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดยเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมดอยู่ในยุโรป แม้ว่ายุโรปจะมีประชากรเพียง 9% ของประชากรทั้งหมดทั่วโลก แต่กลับมีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 20.3% ขณะที่อเมริกามีประชากรคิดเป็น 13.3% ของโลก มีผู้ป่วยมะเร็งคิดเป็น 21% และมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งคิดเป็น 14.4% ของประชากรทั่วโลก

ขณะที่เอเชียก็มีภาระที่หนัก โดยมีผู้ป่วยมะเร็งคิดเป็น 48.4% ของประชากรทั้งหมดทั่วโลก และมีสัดส่วนการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นคิดเป็น 57.3% ส่วนแอฟริกาก็มีสัดส่วนการเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้มากถึง 7.3% และมีผู้ป่วยมะเร็ง 5.8%

AFP Photo

ด้าน IARC ระบุไว้ในรายงาน Globocan 2018 ว่า ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่จากประเทศร่ำรวย ความจริงสามารถหลีกเลี่ยงได้หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง

อายุถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากผู้คนจำนวนมากที่มีอายุมากขึ้นมีสิทธิ์เป็นมะเร็งได้มากกว่าโรคอื่น เช่น โรคหัวใจหรือโรคเส้นเลือดในสมอง ที่สามารถป้องกันและรักษาได้ดีกว่า

“มะเร็งเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของผู้คนทั่วโลก และไม่คำนึงถึงช่วงอายุของมนุษย์” รายงานกล่าวว่า

มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุหนึ่งในสามของการเสียชีวิตทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดมากที่สุดอยู่ที่ 1.8 ล้านคน จากสาเหตุการวินิจฉัยโรคที่ไม่ดีพอ

“ตัวเลขใหม่ๆ เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ายังมีสิ่งที่ต้องทำเพื่อแก้ปัญหาโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นทั่วโลก และการป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด” ดร. คริสโตเฟอร์ป่าผู้อำนวยการองค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติกล่าว